Fund Flow ไหลออกต่อเนื่อง (24 พ.ค. 64)
ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนที่อยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ จากความกังวลเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้ FED ลดการอัดฉีดสภาพคล่อง (QE)
ประกอบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังทรงตัวในระดับสูง ที่ 2-3 พันรายต่อวัน และความกังวลของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธ์อินเดียที่เชื้อแพร่กระจายได้เร็วกว่าปกติ โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,552.44 จุด -2.10 จุด -0.13% มูลค่าการซื้อขาย 80,932 ลบ. ต่างชาติ -2,014.68 ลบ. TFEX -2,491 สัญญา ตราสารหนี้ +1,274.69 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 123.69 จุด +0.36% ได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธนาคาร แม้นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อก็ตาม
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.64 ดอลลาร์ +2.7% ปิดที่ 63.58 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากความเป็นไปได้ว่าพายุจะก่อตัวในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐ แต่ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์ -2.7% ถูกกดดันจากสัญญาณความคืบหน้าในการรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซึ่งอาจทำให้ปริมาณน้ำมันเพิ่มขึ้นในตลาดโลก
+ ประธานเฟด แถลงว่า เฟดคืบหน้าไปอีกขั้นหนึ่งในการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง โดยจะเผยแพร่เอกสารงานวิจัยเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลในช่วงฤดูร้อนปีนี้ เพื่อเป็นการปูทางสู่การออกสกุลเงินดิจิทัลในอนาคต
+ ภาคธุรกิจของยูโรโซนเติบโตเร็วที่สุดในรอบกว่า 3 ปีในเดือนพ.ค. เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคบริการของยูโรโซนได้เพิ่มแรงหนุนจากการที่ภาคการผลิตกำลังขยายตัวด้วย
+ในปี 2564 สภาพัฒน์คาดการณ์ว่าการส่งออกจะขยายตัว 10.3% เทียบกับการลดลง 6.6% ในปี 2563 และเป็นการปรับเพิ่มจากการขยายตัว 5.8% ในการประมาณการครั้งที่ผ่านมา โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกสินค้าจะขยายตัว 7.3%
ปัจจัยลบ
- รัฐสภายุโรปประกาศระงับการให้สัตยาบันในข้อตกลงด้านการลงทุนฉบับใหม่กับจีน จนกว่าจีนจะยกเลิกการคว่ำบาตรนักการเมืองของ EU ทำให้บริษัทเอกชนของ EU ประสบความยากลำบากในการรุกธุรกิจในประเทศจีน
- WHO ระบุว่า ตัวเลขที่แท้จริงของจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 อาจจะสูงกว่าตัวเลขทางการที่เปิดเผยถึง 2-3 เท่า ซึ่งอาจจะสร้างความยากลำบากต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG)
- อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ระบุว่า สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีขณะนี้เกือบจะแตะเพดานที่ระดับ 60% หากเศรษฐกิจขยายได้ไม่ถึง 2% ในปีนี้ หนี้สาธารณะจะชนเพดาน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากเม็ดเงิน Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,560 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ยอดส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเติบโต STA NER TWPC ASIAN
• ยุโรปเตรียมเปิดประเทศ MINT SHR CRC
• หุ้นที่เข้าคำนวณ FTSE มีผลบังคับใช้ราคาปิดวันที่ 18 มิ.ย. Large Cap : เข้า OR SCGP ไม่มีออก ,Mid Cap :ไม่มีเข้าและออก , Small Cap : เข้า KEX ออก THAI ,Micro Cap : เข้า JR, NEX, NRF, RT, SA, SO ไม่มีออก
หุ้นรายงานพิเศษ
WICE ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 8.40 บาท)
•บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 1Q21 เท่ากับ 81.60 ล้านบาท เติบโต +37.4%QoQ และ +169.58 %YoY โดยได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ที่ฟื้นตัวโดดเด่น และภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ช่วยผลักดันราคาการให้บริการสูงขึ้นตาม ประกอบกับธุรกิจ Cross Border Services ที่เติบโตโดดเด่น ตามความต้องการขนส่งทางบกข้ามแดนเพิ่มมากขึ้น
•สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ 2Q21 บริษัทคาดว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เพราะมีแนวโน้มปริมาณงานมากขึ้นตามความต้องการใช้งานโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น โดยตลาดประเทศจีนมีแนวโน้มปริมาณงานสูงขึ้นจากการนำเข้าและส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศของอุปกรณ์กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสินค้าหลักในการขนส่งของบริษัทยังมีดีมานด์ต่อเนื่องและมีมาร์จิ้นที่สูง ประกอบกับธุรกิจ Cross Border Services ได้ทยอยลงทุนสั่งซื้อตู้คอนเทนเนอร์เพิ่ม 200 ตู้ ซึ่งปัจจุบันทยอยรับมอบตู้แล้วกว่า 100 ตู้ และคาดว่าจะรับมอบครบภายในกลางปีนี้ เพื่อรองรับต่อความต้องการที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 20%
•ความเห็น : เรามีมุมมองเชิงบวกหลังจากประชุมนักวิเคราะห์ โดยผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางปัจจัยลบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 ขณะที่ปริมาณงานขนส่งยังเพิ่มทุกช่องทาง นอกจากนั้นบริษัทมีแผนนำบริษัทลูก ETL เข้าตลาดภายในปีหน้า และเปิดคลังสินค้าใหม่เพิ่มเติม แนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) NRF (Bloomberg Consensus 11.00 บาท) เล็งออกหุ้นเพิ่มทุน 7.6 ล้านหุ้น แลกหุ้น GTH 49% ลุยธุรกิจกัญชง คาดแล้วเสร็จ Q3/64 “แดน” ลั่นหนุนผลงานโตเร็วขึ้น 2 ปี มั่นใจปี 65 มีสัดส่วนรายได้ 5-8% ของเป้าหมายรวม 3,000 ล้านบาท ย้ำปี 64 รายได้โต 40-50%(ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) BANPU ( ฺBloomberg Consensus 13.50 บาท) เร่งทำกำไรสบช่องราคาถ่านหินขาขึ้น ล่าสุดยืนเหนือ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่งสัญญาณผลประกอบการไตรมาส 2/64 โตต่อเนื่อง พร้อมปรับลดต้นทุนเหมืองในออสเตรเลีย-อินโดฯ (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) HANA (Bloomberg Consensus 60.00 บาท) แย้มผลงาน Q2/2564 ดีกว่าไตรมาสแรก ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทรงตัวระดับสูง แถมตุนแร่ทองแดงพร้อมผลิตชิปส่งมอบลูกค้าถึง Q3/2564 พร้อมเร่งขยายกำลังผลิตในไทยและเตรียมแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า คาดหวังเป็น New S-curve (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BROOK (Bloomberg Consensus - บาท) เดินหน้าลงทุนคริปโทเพิ่มในไตรมาส 2/64 จ้านวน 902 ล้านบาท รวมลงทุนแล้วกว่า 1.1 พันล้านบาท จากเดิม 200 ล้านบาท ชี้กระจายการลงทุนในเหรียญดิจิทัลต่างๆ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจ Digital Asset และเป็น บจ.รายแรกในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ลงทุนในเหรียญดิจิทัล มั่นใจแนวโน้มระยะยาวสินทรัพย์ดิจิทัลโตต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตา
ในประเทศ
24 พ.ค. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงภาวะสังคมไทย 1Q64
25 พ.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
28 พ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ต่างประเทศ
24 พ.ค. สหรัฐเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนเม.ย.
25 พ.ค. สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน ยอดขายบ้านใหม่ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
26 พ.ค. สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมัน
27 พ.ค. จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. GDP 1Q64 (ประมาณการครั้งที่ 2) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนเม.ย.