PTT - ซื้อ (25 พ.ค.64)
ลงทุนใน S-curve ใหม่
S-curve ใหม่จะอยู่ 4 ธุรกิจ วัสดุขั้นสูง (advanced materials), ชีววิทยาศาสตร์ (life science), ผลิตภัณฑ์ยานยนต์และตกแต่งบ้าน (mobility& lifestyle), และ e-logistics โดย PTT จัดสรรงบลงทุน 10% ให้กับธุรกิจ S-curve โดย guidance สะท้อนการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งในปีนี้ คงคำแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย SoTP ที่ 47.0 บาทต่อหุ้น
จัดสรร 10% ของงบลงทุนให้กับธุรกิจ S-curve
PTT จัดประชุมนักวิเคราะห์และมีโทนเป็นบวก PTT ให้ข้อมูลแผนการลงทุนในธุรกิจ S-curve ใหม่ 4 กลุ่มด้วยกัน, วัสดุขั้นสูง (advanced materials), ชีววิทยาศาสตร์ (life science), ผลิตภัณฑ์ยานยนต์และตกแต่งบ้าน (mobility& lifestyle), และ e-logistics โดย PTT จะเน้นไปที่ธุรกิจ life science จากโอกาสในสังคมผู้สูงอายุ, โรคระบาด, ต้นทุนการดูแลสุขภาพที่สูงขึ้น โดย PTT จัดตั้งบริษัท Innobic (Asia) สำหรับการลงทุนและจะจัดสรร 10% ของงบการลงทุนให้กับธุรกิจใหม่ Innobic ได้ลงทุนใน 4 บริษัท; i) GPO Oncology plant (2.5พันลบ.) เพิ่มสร้างโรงงานผลิตยารักษาโรคมะเร็งในไทย, ii) ลงทุน 1.55พันลบ. สำหรับหุ้น 6.66% ใน Lotus Pharmaceutical ในไต้หวัน, iii) JV กับ IRPC (60%, PTT 40%) เพื่อจัดตั้งบริษัท Innopolymed เพื่อผลิตอุปกรณ์การแพทย์จากผ้าไม่ถักทอ (non-woven fabric), iv) JV กับ NRF (50:50, ทุนจดทะเบียน 300ลบ.) เพื่อผลิตโปรตีนจากพิช เรามีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนใหม่เนื่องจากใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่มีโอกาสการเติบโตสูง
คาดการณ์การฟื้นตัวที่แข็งแกร่งใน 2021
หนุนจากทุกธุรกิจ คาดความต้องการก๊าซเติบโต 1% (CAGR 3.2% ในช่วง 2021-25) เทียบกับ -8% ใน 2020 จากอัตราการผลิตของ GSP ที่ดีขึ้น (92-94% ใน 2021 เทียบกับ 88% ใน 2020) คาด PTTEP จะมีปริมาณขายเพิ่มขึ้น 14% และอัตรา EBITDA จะเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน และต้นทุนต่อหน่วยลดลง 5% ธุรกิจโรงกลั่นจะมีอัตราการกลั่นที่สูงที่ 97-99% (96% ใน 2020) รวมถึงการฟื้นตัวราคาและส่วนต่างปิโตรเคมี แม้จะมีการลดลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ซื้อ ราคาเป้าหมาย 47.0บาทต่อหุ้น
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินงานของ PTT ในปีนี้ กระแสเงินสดของ PTT จะยังคงเพิ่มขึ้นสู่ 2.57, 3.19, และ 3.96แสนลบ. ในปี 2021-23 จาก 2.18แสนลบ. ใน 2020 และ ROE ที่เพิ่มขึ้น (11.8%, 13.0%, และ 12.9% ตามลำดับ)