HANA - ถือ (28 พ.ค.64)
ราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มบวกไปเกือบหมดแล้ว
Event
ประชุมนักวิเคราะห์
Impact
อุปสงค์ยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสที่สอง
HANA คาดคำสั่งซื้อจะแข็งแกร่งใน 2Q64 จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในกลุ่มยานยนต์, cloud computing, และ smartphone (กระแส 5G) นอกจากนี้ การที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสามก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้อุปสงค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เร่งตัวขึ้น ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อ HANA
ใน 2Q64 แต่อาจจะส่งผลกระทบตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามผลกระทบน่าจะน้อยมากเนื่องจาก HANA ได้แจ้งลูกค้าไปแล้วเกี่ยวกับระยะเวลา lead time ที่นานขึ้น (~ 12 เดือน) และแนะนำให้ลูกค้าทำประมาณการคำสั่งซื้อล่วงหน้านานขึ้น โดยรวมแล้ว แนวโน้มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่ง WSTS ได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการเติบโตของยอดขาย semiconductors ปี 2564 ขึ้นจากเดิมที่ 8% YoY เป็น11% YoY (Figure 2) ทั้งนี้ยอดขายใน 1Q64 172 ล้านดอลลาร์ฯ คิดเป็น 24%ของสมมติฐานทั้งปีของเรา (712 ล้านดอลลาร์ฯ, +16% YoY) เราจึงคงสมมติฐานยอดขายปี 2564-65 อัตรากำไรขึ้นกับยอดขาย และ อัตราแลกเปลี่ยนในระยะสั้นถึงกลาง ส่วนการออกสินค้าใหม่จะทำให้
อัตรากำไรเพิ่มขึ้นในระยะยาว
อัตรากำไรขั้นต้นมีโอกาสจะขยับขึ้นใน 2Q64 จาก i) ปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น และ ii) เงินบาทที่อ่อนค่าลง QoQ (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย QTD อยู่ที่ 31.30 บาท/ดอลลาร์ฯ จาก 30.30 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 1Q64) เนื่องจาก HANA สามารถส่งผ่านภาระต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้นไปให้ลูกค้าได้ เราจึงยังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564-65 เอาไว้เท่าเดิมที่ 13.6%-13.9% ตามลำดับ HANA ก้าวเข้าสู่สินค้าใหม่ (power management และ Silicon carbide) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ cloud computing และยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และยังต้องรอให้ลูกค้าประเมินผลงานก่อน (ใช้เวลา ~4-6 เดือน) โดยหลังจากที่บริษัทได้รับผลประเมินแล้วจะเดินหน้าทำการผลิต และวางแผนขยายกำลังการผลิตต่อไป เรายังไม่ได้รวมเข้าไว้ในประมาณการของเราเนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มคำสั่งซื้อ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสินค้าใหม่กลุ่มนี้จะไม่ได้มีสัดส่วนสูงนักเมื่อเทียบกับยอดขายรวม (กลุ่มโทรคมนาคมคิดเป็น 35% ของยอดขายรวม) แต่น่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นในระยะยาว
Valuation & action
ถึงแม้ว่าคำสั่งซื้อจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งในระยะต่อไป แต่เรามองว่าผลประกอบการปี 2564-65 มี upside จำกัด เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 เอาไว้ที่ 56.00 บาท อิงจาก PER ที่ 20.0X (ค่าเฉลี่ยในอดีต +2.0S.D.) ทั้งนี้ เนื่องจากราคาปิดล่าสุดไม่เหลือ upside แล้ว และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ ~4% จะช่วยพยุงราคาหุ้นเอาไว้ ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” HANA
Risks
ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2564-65 ที่ 29.50 บาท/ดอลลาร์ฯ)