กลุ่มค้าปลีกฯลุยแซนด์บ็อกซ์'ฮักไทย'คิกออฟ‘ฮักภูเก็ต’1ก.ค.ปลุกทัวริสต์ใช้จ่าย
กลุ่มการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย ศูนย์กลางเชื่อมทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน เดินหน้าจัดทำ “แซนด์บ็อกซ์” สร้างแพลตฟอร์มต้นแบบในทุกภารกิจครอบคลุมทุกมิติในการฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
ญนน์ โภคทรัพย์ ประธานกลุ่มการค้าปลีกและบริการ หอการค้าไทย กล่าวว่า ได้เร่งกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ (Local Consumption) ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านโครงการ “ฮักไทย” (Hug Thais) เพื่อส่งเสริมและยกระดับสินค้าแบรนด์ของคนไทย รวมถึงโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยมากกว่า 2.7 แสนล้านบาท ภายใน 6 เดือน คิดเป็น 1.6% ของจีดีพีทั้งประเทศและจะสามารถพยุงการจ้างงานกลับคืนมากว่า 2 ล้านคน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเดินหน้า
ทั้งนี้ ได้เตรียมเปิดตัวโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (Hug Thais Hug Phuket) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งคาดว่ารายได้ที่จะมาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรก จะมีกว่า 12,000 ล้านบาทภายใน 3 เดือน
หลังจากนั้นจะขยายผล “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” ไปยังจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ สนับสนุนนโยบายของภาครัฐ โดยที่จะมีการทำงานประสานร่วมกับสมาคมต่างๆ อาทิ อาทิ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย และสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย
โดยวันที่ 21 มิ.ย.นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมีการลงนามความร่วมมือเปิดตัวโครงการ “ฮักไทย” ระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และหอการค้าไทย เพื่อเป็นการผลักดันโครงการ “ฮักไทย” ให้เข้าถึงทุกจังหวัด สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศ
“ฮักไทย ได้สร้างต้นแบบแซนด์บ็อกซ์ครอบคลุมทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และออมนิชาแนล (Omnichannel) กับกลุ่มเซ็นทรัล และกำลังขยายผลไปยังกลุ่มบริษัทค้าปลีกอื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย”
สำหรับกลุ่มการค้าปลีกและบริการ มุ่งดำเนินการ 3 ภารกิจหลักภายใต้นโยบาย Connect the Dots ฟื้นฟูเศรษฐกิจภายใน 99 วันแรก ของนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ประกอบด้วย 1.ช่วยยกระดับมาตรฐานของสาธารณสุขไทย สร้างระบบการกระจายและฉีดวัคซีนให้รวดเร็วและทั่วถึง 2.ผลักดันให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Soft Loan)ได้ทั่วถึงและรวดเร็ว เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องอย่างเร่งด่วน และเพื่อมีเงินทุนไปปรับปรุงและขยายธุรกิจ และ 3.กระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศผ่านโครงการ“ฮักไทย” รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกันรวมทั้ง Hug Thais สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อรองรับการเปิดเมืองและเปิดประเทศ
“การรวมพลังของทุกหน่วยงานซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นและเสร็จสิ้นเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ทั้งการยกระดับมาตรฐานของสาธารณสุขไทย พร้อมสร้างระบบการกระจายและฉีดวัคซีนให้รวดเร็ว ทั่วถึง รวมทั้งการฟื้นฟูเอสเอ็มอีไทยให้มีแต้มต่อและเสริมสภาพคล่องเพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยต้องรอด”
ที่ผ่านมา กลุ่มการค้าปลีกและบริการ ริเริ่มในการสร้างระบบการจัดการและกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร (Total Solutions) ประกอบด้วย ระบบการปฎิบัติการ และการสื่อสาร รวมถึงจัดหาพื้นที่รวมทั่วประเทศ 382 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 82 แห่ง ต่างจังหวัด 300 แห่ง รองรับการฉีดวัคซีนสูงสุด 5 แสนคนต่อวัน โดยได้จัดทำแซนด์บ็อกซ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และเอสซีจี เป็นต้นแบบพื้นที่ฉีดวัคซีนที่จะขยายผลต่อไปยังจุดฉีดวัคซีนอื่นๆ ทั้งของภาคเอกชนอีกหลายแห่ง และจุดฉีดวัคซีนของกระทรวงแรงงานในระบบประกันสังคมอีก 67 แห่งทั่วประเทศ
พร้อมกันนี้ ได้ผลักดันเอสเอ็มอีฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งกลุ่มค้าปลีกและบริการมีเอสเอ็มอีครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ อยู่ในระบบ 2.4 ล้านราย สร้างการจ้างงานมากกว่า 12 ล้านคน คิดเป็น 34% ของจีดีพีการบริโภคทั้งประเทศ ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจึงเป็นเรื่องเร่งด่วน
"เราเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมเอสเอ็มอีในระบบค้าปลีกกับธนาคาร ผนึกกำลังสร้าง Digital Factoring Platform โดยสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลให้กับธนาคารพาณิชย์ทั้งของภาครัฐ และเอกชน ผ่านสมาคมธนาคารไทยในการพิจารณาสินเชื่อให้เป็นไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะรายเล็กที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้"
โดยมีเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ให้แก่เอสเอ็มอีทั่วประเทศกว่า 5 แสนราย ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแซนด์บ็อกซ์นี้ สอดรับนโยบาย “โครงการพี่ช่วยน้อง” ทั้งเร่งพัฒนาศักยภาพเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแรง (upskill/reskill) เป็นแต้มต่อให้สามารถฟื้นฟูและขยายธุรกิจต่อไปได้
สำหรับ การกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศผ่านโครงการ “ฮักไทย” รวมใจ ไทยไม่ทิ้งกัน รวมทั้ง Hug Thais สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อรองรับการเปิดเมืองและเปิดประเทศ เชื่อว่าจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวและใช้จ่ายซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของไทย โครงการ “ฮักไทย” จะช่วยฟื้นฟูการบริโภคภายในประเทศ ผ่านการกิน-เที่ยว-ใช้ แบบไทยๆ อุดหนุนสินค้าไทย โดยผู้ประกอบการคนไทย