BAFS รุกขยายธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม -บริการด้านไอที หนุนรายได้โตยั่งยืน
“บาฟส์” เดินหน้าสร้างธุรกิจหม่ หวังปี 67 มีสัดส่วนรายได้50%ของรายได้รวม หวังลดความผันผวนหลังโควิดกระทบหนัก เล็งซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก13เมกะวัตต์ มูลค่าไม่เกิน700 ล้าน
นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนยุทธศาสตร์ปี 2564-2567 เพื่อการเติบโตของกลุ่มบริษัทอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้ใหม่คือ บริการขนส่งน้ำมันอากาศยานและน้ำมันภาคพื้นดินผ่านระบบท่อ สัดส่วน 20%ของรายได้รวมธุรกิจพัฒนาระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรม ธุรกิจพลังงานทางเลือก (โซลาร์ฟาร์ม) สัดส่วน 30%ของรายได้รวม เพื่อลดความผันผวนของรายได้ธุรกิจบริการน้ำมันอากาศยาน หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้มองว่า จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น หลังกระจายวัคซีนเป็นวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ จากบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ปี 2563 มีการให้บริการเติมน้ำมันเพียง 193 ล้านลิตร และไตรมาส 1 ปี 2564 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 410 ล้านลิตร แต่ปีนี้มองว่า ยังมีแนวโน้มลดลงอยู่เป็นผลจากโควิด-19 ระลอกที่ 2-3บ้าง โดยคาดว่าปีนี้จะให้บริการปริมาณน้ำมันอากาศยานลดลงราว 2% หรืออยู่ที่ 2,302 ล้านลิตร จากปีก่อน 2,354 ล้านลิตร ขณะที่น้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการเติบโตขึ้น 3% หรืออยู่ที่3,225 ล้านลิตร
“ในไตรมาส1 ปี 64 บริษัทมีโครงสร้างรายได้ใหม่ โรงไฟฟ้าโซลาร์ สัดส่วน 8 % , ธุรกิจบริการขนส่งน้ำมันฯผ่านระบบท่อ สัดส่วน 35%จากรายได้รวมที่เหลือบริการเติมน้ำมันเครื่องบิน”
หม่อมหลวง ณัฐสิทธิ์ ดิสกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า หลังจากนี้บริษัััทเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ไม่ใช่การเติมน้ำมันมากขึ้นในอนาคต โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์ฟาร์ม)เพิ่มเติม 13 เมกะวัตต์ มูลค่าไม่เกิน 700 ล้านบาท เป็นการลงทุนในต่างประเทศ เน้นโครงการที่จำหน่ายเชิงพาณิชย์แล้ว(COD) เพื่อสามารถรับรู้รายได้ทันทีและหลังโควิด-19 คลี่คลายมองหาโอกาสลงทุนโครงการใหม่แบบกรีนฟิลด์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นด้วย
สำหรับที่ผ่านมาได้เข้าซื้อกิจการโซลาร์ฟาร์มแล้ว 7 แห่ง เงินลงทุน 1,705 ล้านบาท รับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 1 ปี2564 แล้ว 30.9 ล้านบาท เพราะเป็นโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว และปัจจุบันมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นระยะเวลา 20 ปี
ส่วนความคืบหน้าโครงการขยายท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ เฟส 2 ขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จ คาดเปิดเต็มรูปแบบได้ในไตรมาส 3 ปี 64 ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งน้ำมันทางท่อจะเพิ่มขึ้น 3% ในปีนี้หรืออยู่ที่ 2,325 ล้านลิตร นอกจากนี้ธุรกิจพัฒนาระบบเทคโนโลยีมีลูกค้านอกกลุ่ม 3-4รายสนใจลงทุนและอยู่ระหว่างการเจรจา