CENTEL - ถือ (25 มิ.ย.64)
เลื่อนลงทุนช่วยไว้
2QTD อัตราการเข้าพักของโรงแรมอ่อนแอที่ระดับ 13% ขณะที่ธุรกิจ QSR พลิกเป็นบวกเลขหลักเดียวจากฐานต่ำหลังจากลดลง YoY ต่อเนื่อง 10 ไตรมาส เราเห็นความเสี่ยงดาวไซด์ต่อสมมติฐานนักท่องเที่ยวและ RevPar แต่เราเชื่อว่าผลกระทบจะได้การลดงบลงทุนในดีลโรงแรมหัวหินชดเชย คงราคาเป้าหมายและคำแนะนำ ถือ
ผลการดำเนินงานโรงแรม 2QTD ไม่ค่อยดี; ธุรกิจ QSR ดีกว่า
หลังการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมในต้นเม.ษ. เราเห็นการดำเนินงานของโรงแรมพลิกกลับมาลดลงอย่างรวดเร็ว จากการระบาดระลอกสาม และไปแตะระดับต่ำสุดในกลางพ.ค.อย่างรวดเร็ว ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยหลังจากนั้น เราคาดอัตราการเข้าพัก 2QTD อยู่ในช่วง 13% (ไทย 10% และมัลดีฟส์ 65-70%) ส่วนธุรกิจ 2QTD SSSg พลิกกลับมาเป็นบวกเลขหลักเดียวหลังติดลบติดต่อกัน 10 ไตรมาส (ตั้งแต่ 4Q18) เป็นผลจากฐานต่ำ ในเม.ษ.
อัพไซด์ 4 บาทต่อหุ้นจากการลดงบลงทุนโรงแรมที่หัวหิน
เหตุการณ์สำคัญในประเด็นโรงแรมหัวหินใกล้จะเกิดขึ้น โดยส่วนลดค่าเช่าระยะสั้น (ส่วนลด 50% จากค่าเช่า 100ลบ. ต่อปี) จะสิ้นสุดในพ.ค.22 และ CENTEL ต้องตัดสินใจระหว่างต่อสัญญาเช่าระยะยาว 30ปี (เว้นค่าเช่า 4 ปี) ของที่ดิน 71.65 ไร่ โดยก่อนหน้านี้รฟท.คาดผลตอบแทนจากที่ดินแปลงนี้ที่ 8.9พันลบ. (ค่าเช่า 5.7พันลบ.; 190.9ลบ.ต่อปี; 140บาทต่อตร.ม. และส่วนลงทุน 3.2พันลบ.) ในเบื้องต้น รฟท.ตั้งเป้าที่จะจัดประมูลภายในก.ค. - ส.ค. และได้ข้อสรุปภายในสิ้นปี หาก CENTEL เลือกต่อสัญญา เราใช้สมมติฐานว่าบริษัทจะก่อสร้างโรงแรม 5 ดาวขึ้นอีก 3 แห่งในช่วง 2022-2025 แต่หากไม่ต่อสัญญา เราอาจเห็นอัพไซด์อีก 4 บาทต่อหุ้น
ความเสี่ยงการเปิดประเทศชดเชยจากอัพไซด์จากการลดงบลงทุน
เราอาจเห็นการปรับคาดการณ์กำไรของ CENTEL อีกครั้งซึ่งเป็นผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง การวิเคราะห์ sensitivity ของเราคาดว่ากำไรจะปรับลงเป็น-1,630ลบ./+118ลบ./+1,432ลบ. ในช่วงปี FY21/22/23F และราคาเป้าหมายลงสู่ 28บาท (-11%) อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าผลกระทบจะถูกหักล้างโดยการลดงบลงทุนของ CENTEL เนื่องจากเราเชื่อว่าการต่อสัญญาเช่าที่ดินโรงแรมหัวหินจะไม่สร้างมูลค่าเพิ่ม (fig. 5-6) ดังนั้นเราคงราคาเป้าหมาย 31.5บาทต่อหุ้น และคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายเทียบเท่า 4.7x FY22F P/BV fwd (ใกล้เคียงระดับเฉลี่ย P/BV 5ปี)