อคส.เร่งสอบเอาผิด-ชดเชยความเสียหายปมจัดซื้อถุงมือยางฉาว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ที่นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาการชดใช้ความเสียหายให้กับอคส. กรณีการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาทโดยมิชอบ โดยมีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และพิจารณามูลค่าความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับอคส. มีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 60 วัน   

ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อถุงมือยางทั้งหมดของอคส. ซึ่งเป็นเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ และบุคคลที่อยู่ในคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) ต้องชดใช้ความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากถือว่า เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำการประมาท เลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้หน่วยงานรัฐเสียหาย จึงจะต้องรับผิดตามพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ.2539 

โดยตามขั้นตอนการดำเนินงานของคณะกรรมการความรับผิดทางละเมิด เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดเสร็จแล้ว จะเสนอความเห็นต่อนายเกรียงศักดิ์ว่าผู้กระทำผิดทั้งหมดจะต้องรับผิดโดยชดใช้ความเสียหายให้อคส.จำนวนเท่าไร ขณะเดียวกัน จะส่งเรื่องให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางพิจารณาต่อ เพื่อยืนยันความเสียหาย และความรับผิดของเจ้าหน้าที่อคส. จากนั้นจึงจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่อคส.ทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ชดใช้ค่าเสียหาย 

สำหรับมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นของอคส.จากกรณีจัดซื้อถุงมืออยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ถูกถอนออกจากบัญชีของอคส. เพื่อนำไปจ่ายเป็นค่ามัดจำการซื้อถุงมือยางให้กับบริษัท การ์เดียนกรุ๊ป จำกัด คู่สัญญาที่อคส.ซื้อถุงมือยาง โดยยังไม่รวมดอกเบี้ยเงินฝาก ประมาณ 2% ที่อคส.สูญเสียไปจากการถอนเงิน 2,000 ล้าทบาทออกจากบัญชี ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจของ อคส.เป็นต้น  ส่วนผู้ที่จะต้องชดใช้ความเสียหายเบื้องต้นคือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ผู้ลงนามการอนุมัติเงิน 2,000 ล้านบาท, เจ้าหน้าที่บริหารระดับ 8 อีก 2 คน รวมถึงบุคคลผู้สั่งการ ที่อยู่ในบอร์ด อคส. แต่คาดว่า อาจมีผู้สมรู้ร่วมคิดเพิ่มเติม ที่จะต้องชดใช้ความเสียหายร่วมกันอีก  

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่คณะกรรมการพิจารณาโทษวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่อคส. 3 ราย คือ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร 8 อีก 2 คน ที่มีนายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน นั้น แม้จะพ้นกำหนดพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วันมานานแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ ยังพิจารณาไม่เสร็จ เพราะมีประเด็นที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาตัวการร่วมเพิ่มเติม คาดว่า เมื่อสอบเสร็จแล้ว จะได้รายชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดเพิ่มขึ้น ซึ่งอคส.จะดำเนินการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งทางคดีอาญา คดีแพ่ง และลงโทษทางวินัย  

ขณะเดียวกัน หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้สอบสวนกรณีนี้เสร็จแล้ว และได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งเจ้าหน้าที่อคส. และภาคเอกชนไปแล้วตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ทยอยรับทราบข้อกล่าวหา และแก้ข้อกล่าวหาแล้ว คาดว่า ป.ป.ช.จะสรุปสำนวน และชี้มูลความผิดทั้งหมดได้ในเร็วๆ นี้ จากนั้นจะส่งเรื่องให้อัยการส่งฟ้องดำเนินคดีอาญา และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะดำเนินการทางคดีแพ่ง เพื่อชดใช้ความเสียหายให้อคส