ครม.เคาะ451ล้านเก็บสายไฟเมืองการบินภาคตะวันออกลงดิน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำนำสักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการนำสายไฟลงใต้ดินเพื่อส่งเสริมสภาพพื้นที่สำหรับเมืองการบินภาคตะวันออก ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอวงเงินรวม 541.36 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วน พ.ศ.2564

                โดยกระทรวงกลาโหมชี้แจงว่าโครงการนี้เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการติดตั้งสายไฟฟ้าจากระบบเดิมที่เป็นสายไฟแบบเดินอากาศ (ปักเสาพาดสาย) เป็นแบบร้อยท่อฝังดินในพื้นที่ของกองทัพเรือสัตหีบ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกโดยในส่วนของพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา และท่าเรือจุกเสม็ด ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของกองทัพเรือ กระทรวงกลาโหมจึงเสนอให้กองทัพเรือรับงบประมาณในการดำเนินการในการนำสายไฟลงใต้ดินจำนวน 3 เส้นทาง ระยะทางรวม 5.2 กิโลเมตร โดยมีรายละเอียดในการดำเนินการในเส้นทางต่างๆ และงบประมาณในแต่ละเส้นทางดังนี้

1.ปากทางเข้าสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ถึง แยกวงเงินอู่ตะเภา ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร วงเงิน 190.17 ล้านบาท 2.แยกวงเงินอู่ตะเภา ถึงหน้าอาคารจอดรถอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ระยะทาง 1 กิโลเมตร วงเงิน 88.55 ล้านบาท และ3.เส้นทางแยกอู่ราชนาวีมหิดล ถึงท่าเรือจุดเสม็ด ระยะทาง 2 กิโลเมตร วงเงิน 172.64 ล้านบาท

สำหรับเหตุผลที่ไม่สามารถเบิกจ่ายจากงบประมาณปกติได้เนื่องจากรายการดังกล่าวนี้อยู่นอกแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 25634ของกองทัพเรือ และไม่สามารถขอปรับวงเงินจากโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มาใช้ก่อนได้จึงขอให้มีการสนับสนุนงบประมาณจากงบกลางฯปี 2564 ซึ่งจะทำให้การดำเนินการในโครงการเมืองการบินภาคตะวันออกมีความสมบูรณ์สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ในระยะเวลาที่กำหนด