SCGP ปิดดีลซื้อหุ้น Duy Tan ประเทศเวียดนาม มูลค่า 9.1 พันล้าน
SCGP ปิดดีลเข้าซื้อหุ้น Duy Tan ประเทศเวียดนาม เผยชำระงวดแรกแล้ว 5.1 พันล้าน งวดสองรอพิจารณาผลประกอบการส่วนเพิ่ม แต่คาดใช้เงินไม่เกิน 9.1 พันล้าน เริ่มรับรู้รายได้ ส.ค.64
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยว่า การเข้าซื้อหุ้น (Merger and Partnership: M&P) ในสัดส่วนร้อยละ 70 ใน Duy Tan Plastics Manufacturing Corporation (Duy Tan) ได้ดำเนินการสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามที่ได้เคยเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2564
SCGP ได้ชำระเงินสำหรับการเข้าถือหุ้นร้อยละ 70 โดยแบ่งการชำระค่าหุ้นออกเป็นงวดแรกจำนวน 3,630 พันล้านดอง (ประมาณ 5,170 ล้านบาท) และจะชำระค่าหุ้นงวดที่ 2 โดยพิจารณาจากผลประกอบการส่วนเพิ่มของ Duy Tan สำหรับงวดปีบัญชี 2563 และ 2564 ซึ่งเมื่อรวมกับเงินที่ชำระในงวดแรกแล้ว จะเป็นเงินไม่เกิน 6,400 พันล้านดอง (ประมาณ 9,120 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ธุรกรรมข้างต้นจะดำเนินการผ่าน SCGP Rigid Packaging Solutions Pte. Ltd. (SCGPRS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด โดยจะเริ่มแสดงผลประกอบการของ Duy Tan ในงบการเงินรวมตั้งแต่เดือน ส.ค.2564
ในระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา (ไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ถึงไตรมาสที่ 2 ปี 2564) Duy Tan มีรายได้ประมาณ 5,025 พันล้านดอง (ประมาณ 7,170 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีประมาณ 650 พันล้านดอง (ประมาณ 930 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์ประมาณ 5,000 พันล้านดอง (ประมาณ 7,130 ล้านบาท)
Duy Tan เป็นผู้ผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบคงรูป (Rigid Packaging) ชั้นนำในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีลูกค้าเป็นบริษัทข้ามชาติและเจ้าของสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ Duy Tan ยังผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน เช่น อุปกรณ์และภาชนะบรจุอาหาร
การลงทุนดังกล่าวยังช่วยเพิ่มฐานลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ช่วยผนึกกำลังทางธุรกิจผ่านการขายสินค้าเสริมที่เกี่ยวข้อง การแลกเปลี่ยนจุดแข็งในการดำเนินงาน และการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างการดำเนินงาน อนึ่งการลงทุนนี้เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ SCGP ที่จะส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานในภาคผู้บริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศเวียดนาม
SCGP มุ่งมั่นที่จะตอบสนองต่อกระแสความนิยมการเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนมากขึ้นทั่วโลก อีกทั้งยังนำเสนอสินค้าบรรจุภัณฑ์เยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถะสูงและพอลิเมอร์ตลอดจนบริการบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายอื่นๆ โดยมีฐานการผลิตรวมกว่า 40 แห่งในภูมิภาคอาเซียน SCGP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (270,000 ล้านบาท)
ธุรกรรมดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งบริษัทย่อย มีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 4.8 ของมูลค่าของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCGP สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 โดยเมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทำรายการนี้จะเท่ากับร้อยละ 5.5 ดังนั้นการรายงานสารสนเทศข้างต้นจึงไม่เข้าข่ายที่จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ และไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน