กรมพัฒนาธุรกิจการค้าปั้นคนตัวเล็กค้าออนไลน์

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือเกษตรกร สหกรณ์ ผู้ประกอบการชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย เข้าสู่การค้าออนไลน์ ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานพันธมิตร จัดทำแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ในรูปแบบ รูป B2B (Business-to-Business) ต่อยอดจากแพลตฟอร์มที่มีอยู่ โดยสามารถผลักดันให้เกษตรกรและสหกรณ์ จำนวน 37 แห่ง มีสินค้ารวม 82 รายการ มีโอกาสในการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งตลาดในประเทศและส่งออกตลาดต่างประเทศ

โดยตลาดในประเทศ ได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Phenixbox.com จัดทำข้อมูลสินค้าเกษตร จำนวน 28 สหกรณ์ มีสินค้า 37 รายการ เช่น ข้าวสาร นมโค ผลไม้ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ เพื่อเชื่อมโยงไปยังแพลตฟอร์ม Phenixbox.com โดยมีหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าจากสหกรณ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และยังมีกำหนดการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ กับบริษัทในเครือ TCC Group ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรต่างๆ ของบริษัทแอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) ในเดือน ส.ค.2564

ส่วนตลาดต่างประเทศ ได้เชื่อมโยงสหกรณ์ที่มีกำลังการผลิตเพียงพอต่อการส่งออกจำนวน 9 สหกรณ์ มีสินค้า 45 รายการ เช่น ข้าว นม และโคเนื้อ เป็นต้น นำสินค้าขึ้นไปจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม Thaitrade.com โดยมีหน้าเฉพาะสำหรับสินค้าของสหกรณ์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศได้เข้ามาชมและเลือกซื้อสินค้า รวมทั้งจะจัดให้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจออนไลน์กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าต่างประเทศด้วย

นายทศพลกล่าวว่า กรมฯ ยังได้ช่วยอบรมเกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนทั่วไป ที่สนใจทำการค้าออนไลน์ ให้มีโอกาสทำการค้าออนไลน์ โดยได้ทำการสอนเทคนิคการตลาดออนไลน์โดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้ปรับมาเป็นช่องทางออนไลน์ สอนไปแล้ว 2,175 ราย และยังได้สร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่เป็นเทรดเดอร์ออนไลน์ ให้เข้ามาทำหน้าที่ช่วยนำสินค้าเกษตร สินค้าชุมชนไปขายผ่านออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน เข้าสู่ช่องทางการตลาดบนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมแล้ว 406 ราย

ทั้งนี้ กรมฯ ยังมีแผนที่จะคัดเลือกสินค้าชุมชน ของดีของเด่นประจำจังหวัด จากผู้ประกอบการฐานรากที่มีศักยภาพทั้ง 18 กลุ่มจังหวัด ครอบคลุม 77 จังหวัด เพื่อเข้าสู่กระบวนการให้ความรู้และผลักดันสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวนเป้าหมาย 1,260 ราย จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนธ.ค.2564 และยังจะช่วยสร้างเครือข่ายในการจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าชุมชน ผ่านเครือข่าย MOC Biz Club ด้วย