‘ศบค.’ เคาะขยาย ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ โมเดล 7+7 เที่ยวข้ามเกาะสู่พื้นที่นำร่อง ‘สุราษฎร์ฯ-กระบี่-พังงา’

วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติขยายพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวข้ามเกาะเชื่อมโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ในโมเดล 7+7 กล่าวคือ นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วมาเที่ยวและพำนักในภูเก็ตแบบไม่กักตัวอย่างน้อย 7 วันแรก และได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง เมื่อผลตรวจออกมาเป็นลบ สามารถเดินทางไปเที่ยวพื้นที่นำร่องช่วง 7 วันหลังใน 3 จังหวัดที่กำหนด ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) จ.กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล) และ จ.พังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) เริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.2564

ด้านรายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า จากสถิติโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาท่องเที่ยวภายในจังหวัดภูเก็ตแบบไม่กักตัวอย่างน้อย 14 วันก่อนไปเที่ยวพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ายอดนักท่องเที่ยวสะสมในช่วง 46 วันแรก ตั้งแต่เปิดโครงการฯวันที่ 1 ก.ค.จนถึง 15 ส.ค.2564 มีจำนวน 21,336 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 21,277 คน รอผลตรวจ 1 คน คัดกรองพบ 58 คน

เฉพาะวันที่ 15 ส.ค. มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าโครงการฯ 609 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ 608 คน รอผลตรวจ 1 คน จากจำนวนเที่ยวบิน 8 เที่ยวบิน ขณะที่สถิติผู้ติดเชื้อใหม่ในวันดังกล่าว พบว่ามีจำนวน 50 คน แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 49 คน และจากต่างประเทศ 1 คน

ด้านยอดจองห้องพักโรงแรมในภูเก็ตที่ได้มาตรฐาน SHA+ ในช่วงไตรมาส 3 นี้ ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย.2564 มีจำนวน 382,078 คืน แบ่งเป็นเดือน ก.ค. 190,843 คืน เดือน ส.ค. 160,067 คืน และเดือน ก.ย. 31,168 คืน ส่วนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นตั้งแต่เดือน ต.ค.2564-ก.พ.2565 มีจำนวน 12,571 คืน รวมตั้งแต่เดือน ก.ค.2564-ก.พ.2565 มียอดจองห้องพักสะสมแล้วกว่า 394,649 คืน