SAWAD โชว์กำไรไตรมาส 2/64 เพิ่มขึ้น 11.15% ลดต้นทุน-ธุรกิจประกันดันรายได้แกร่ง
"ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น" ไตรมาส 2/64 กำไรสุทธิ 1,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.15 % หลังธุรกิจประกันภัยรายได้โตเด่นและลดต้นทุนการดำเนินงาน ครึ่งปีหลังลุยขยายธุุรกิจครบวงจร -ปรับโครงสร้างธุรกิจ-พันธมิตรใหม่ วางเป้ารายได้ปี 64 โตกว่า 20% และกำไรโตสองหลัก
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2564 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 1,189.88 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 1,070.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.32 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.15% โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,623.95 ล้านบาท เทียบกับรายได้งวดเดียวกันของปีก่อน 2,061.93 ล้านบาท ปรับลดลง 437.98 ล้านบาท หรือลดลง 21.24% ซึ่งสอดคล้องกับการเปลี่ยนประเภทเงินลงทุนในบริษัทย่อย (บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด) เป็นบริษัทร่วมมีผลทำให้จำนวนพอร์ตลูกหนี้ลดลงจาก 41,444.66 ล้านบาท เหลือ 35,734.29 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทไม่ได้นำลูกหนี้ที่อยู่ในบริษัทร่วม (บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด) มาแสดงอยู่ในงบการเงินรวมของบริษัท
สำหรับรายได้อื่นของบริษัทอยู่ที่ 830.45 ล้านบาท เทียบกับรายได้อื่นงวดเดียวกันของปีก่อน 563.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 267.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47.43 % โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริหารจัดการและรายได้ค่านายหน้าจากธุรกิจประกันชีวิตและวินาศภัยที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกันในไตรมาสที่ 2 บริษัทได้ปรับตัวและลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 199.55 ล้านบาทหรือลดลง 19.78%
“สำหรับครึ่งปีแรก 2564 เป็นช่วงที่ SAWAD ปรับโครงสร้างธุรกิจและปรับตัวรับต่อสถานการณ์โควิดมาโดยตลอด ทั้งการขยายสาขาที่ศรีสวัสดิ์ได้ผนึกพันธมิตรร่วมกับบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในการเปิดสาขาใหม่ให้บริการในสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นอีกยุทธศาสตร์สำคัญช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อในทุกพื้นที่ และธุรกิจนายหน้าประกัน บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทประกันชั้นนำ เร่งพัฒนาระบบรองรับเพื่อให้บริการในแต่ละสาขาตอบโจทย์ลูกค้าอย่างดีเยี่ยม ซึ่งจะสะท้อนไปสู่ผลงานในช่วงครึ่งปีหลังและทั้งปี 2564 ให้เติบโต”
ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นว่า จากการปรับโครงสร้างธุรกิจอย่างต่อเนื่องในปีนี้และขยายธุรกิจให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น จะส่งให้ผลการดำเนินงานตลอดปี 2564 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทยังคงเป้าหมายเดิมทั้งรายได้และพอร์ตลูกหนี้จะเติบโตที่ระดับ 20% และประมาณการกำไรเติบโตในระดับ Double-Digit