เกษตร-คลัง ปรับเกณฑ์ อักโข! ชดเชย ผู้ประสบภัยพิบัติ
กระทรวงเกษตรฯร่วมคลัง ประกาศใช้หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรฉบับใหม่ โคลัมปีสกิน รับ กลุ่มแรก
นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯร่วมกับกระทรวงการคลัง ประกาศใช้หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านการเกษตรฉบับใหม่ ตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอเพื่อปรับปรุงอัตราการให้ความช่วยเหลือ ให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้นจากหลักเกณฑ์เดิมตั้งแต่ปี 2556
ซึ่งร่างหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 โดยมีขอบเขตการจ่ายเงินทดรองราชการว่า จะต้องเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านการเกษตร แก่ผู้ประสบภัยที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรฯ ก่อนเกิดภัยพิบัติ ซึ่งมีหลายด้าน อาทิ ด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์
นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ในส่วนของปศุสัตว์มีการปรับเกณฑ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเกือบทุกชนิดสัตว์ และมีอัตราเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยคาดว่าเกษตรกรผู้ประสบภัยจากโรคลัมปี สกินจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการช่วยเหลือตามอัตราใหม่
โดยหลักเกณฑ์ฯ ระบุว่าผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีที่เป็นการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีนและเวชภัณฑ์รักษาสัตว์ เพื่อการฟื้นฟู สุขภาพสัตว์เลี้ยงและการจัดหาอาหารสัตว์ตามราคาท้องตลาด หรือตามความจำเป็นเหมาะสม การให้ความช่วยเหลือกรณีแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูหรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้ให้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงินในอัตราไร่ละ 1,980 บาท แต่ไม่เกินรายละ 30 ไร่ การให้การช่วยเหลือกรณีสัตว์ตายหรือสูญหายให้ช่วยเหลือตามจำนวนที่เสียหายจริงแต่ไม่เกินเกณฑ์การช่วยเหลือโดยดำเนินการช่วยเหลือ
สำหรับหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ด้านพืช ข้าว เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 1,340 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 20.39% จากเดิมชาวนาจะได้รับเยียวยากรณีประสบภัยพิบัติ 1,113 บาท/ไร่ ไม่เกิน 30 ไร่/ราย ,พืชไร่เยียวยา 1,980 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 72.4% จากเดิมพืชไร่จะได้รับเยียวยา 1,048 บาท/ไร่ ไม่เกิน 30 ไร่/ราย,พืชสวนเยียวยา 1,980 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 17% จากเดิมพืชไร่จะได้รับเยียวยา 1,690 บาท/ไร่ ไม่เกิน 30 ไร่/ราย ,ไม้ผลไม้ยืนต้น เยียวยา 4,048 บาท/ไร่ ไม่เกิน 30 ไร่/ราย เดิมไม่ได้รับการเยียวยา
ประมง อาทิ กุ้งกร้ามกราม กุ้งทะเล ปูทะเล หรือหอยทะเล เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 11,780 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 7.8% จากได้รับเยียวยากรณีประสบภัยพิบัติ 10,920 บาท/ไร่ ช่วยเหลือไม่เกิน 5 ไร่/ราย,ปลาหรือสัตว์น้ำอื่น ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าว หรือร่องสวน เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 4,682 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 10.8% จากได้รับเยียวยากรณีประสบภัยพิบัติ 4,225 บาท/ไร่ ช่วยเหลือไม่เกิน 5 ไร่/ราย,สัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 368 บาท/ไร่ เพิ่มขึ้น 16.8% จากได้รับเยียวยากรณีประสบภัยพิบัติ 315 บาท ช่วยเหลือไม่เกิน 80 ตาราเมตร(ตร.ม.)/ราย
ด้านปศุสัตว์ อายุน้อยกว่า 6 เดือน เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 13,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 116% จากเดิมเยียวยา 6,000 บาท/ตัว,อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 22,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 83% จากเดิมเยียวยา 12,000 บาท/ตัว ,อายุมากกว่า 1 ปี ไม่เกิน 2 ปี เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 29,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 81% จากเดิมเยียวยา 16,000 บาท/ตัว ,อายุมากกว่า 2 ปี เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 35,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 75% จากเดิมเยียวยา 20,000 บาท/ตัวและเพิ่มการเยียวยา จาก 2 ตัว/ราย เป็นไม่เกิน 5 ตัว/ราย
กระบือเกษตรกรจะได้รับเยียวยา 15,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 87.5% จากเดิมเยียวยา 8,000 บาท/ตัว,อายุ 6 เดือนถึง 1 ปี เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 24,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 71% จากเดิมเยียวยา 14,000 บาท/ตัว ,อายุมากกว่า 1 ปี ไม่เกิน 2 ปี เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 32,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 77% จากเดิมเยียวยา 18,000 บาท/ตัว ,อายุมากกว่า 2 ปี เกษตรกรจะได้รับเยียวยา 39,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 77% จากเดิมเยียวยา 22,000 บาท/ตัวและเพิ่มการเยียวยา จาก 2 ตัว/ราย เป็นไม่เกิน 5 ตัว/ราย
สำหรับ สุกร อายุ 1-30 วัน ได้รับเยียวยา 1,500 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 15% จากเดิมเยียวยา 1,300 บาท/ตัว เยียวยาไม่เกิน 10 ตัว/ราย ส่วนอายุมากกว่า 30 วัน ได้รับเยียวยาเท่าเดิมคือ 3,000 บาท/ตัวไม่เกิน 10 ตัว/ราย ,แพะ/แกะ อายุ 1-30 วัน ได้รับเยียวยา 1,500 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 15% จากเดิมเยียวยา 1,300 บาท/ตัว เยียวยาไม่เกิน 10 ตัว/ราย ส่วนอายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป จะได้รับเยียวยา 3,000 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 50% จากเดิมเยียวยา 2,000 บาท/ตัว ไม่เกิน 10 ตัว/ราย
ไก่พื้นบ้าน/ไก่งวง อายุ 1 – 21 วันได้รับเยียวยา 30 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 20% จากเดิมได้รับการเยียวยา 25 บาท/ตัว ไม่เกิน 300 ตัว/ราย, อายุมากกว่า 21 วัน ได้รับเยียวยา 80 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 60% จากเดิมได้รับการเยียวยา 50 บาท/ตัว ไม่เกิน 300 ตัว/ราย,ไก่ไข่เยียวยา ไม่เกิน 1,000 ตัว/รายอายุ 1 – 21 วันได้รับเยียวยา 30 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 50% จากเดิมได้รับการเยียวยา 20บาท/ตัว, อายุมากกว่า 21 วัน ได้รับเยียวยา 100 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 20% จากเดิมได้รับการเยียวยา 80 บาท/ตัว
เป็ดไข่ เยียวยาไม่เกิน 1,000 ตัว/ราย อายุ 1 – 21 วันได้รับเยียวยา 30 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 50% จากเดิมได้รับการเยียวยา 20บาท/ตัว, อายุมากกว่า 21 วัน ได้รับเยียวยา 100 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 100% จากเดิมได้รับการเยียวยา 50 บาท/ตัว,เป็ดเนื้อ/เป็ดเทศ อายุ 1 – 21 วันได้รับเยียวยา 30 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 50% จากเดิมได้รับการเยียวยา 20บาท/ตัว, อายุมากกว่า 21 วัน ได้รับเยียวยา 80 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 60% จากเดิมได้รับการเยียวยา 50 บาท/ตัว
นกกระทาเยียวยาไม่เกิน 1,000 ตัว/ราย อายุ 1 – 21 วันได้รับเยียวยา 10 บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 20% จากเดิมได้รับการเยียวยา 8 บาท/ตัว, อายุมากกว่า 21 วัน ได้รับเยียวยา 30บาท/ตัว เพิ่มขึ้น 100% จากเดิมได้รับการเยียวยา 15 บาท/ตัว ส่วน พืชอาหารสัตว์ เยียวยาไม่เกิน 20 ไร่/รายเท่าเดิม โดย เมล็ดพันธุ์เดิม เยียวยา 220 บาท/ไร่ ไร่ละไม่เกิน 2กิโลกรัม และหน่อพันธุ์/ท่อนพันธุ์ เยียวยา 625 บาท/ไร่ จำนวน 250 กิโลกรัม/ไร่ รัฐบาลจะเยียวยาให้ในอัตรา 1,300 บาท/ไร่