พักเพื่อขึ้นต่อ (31 ส.ค.64)

พักเพื่อขึ้นต่อ (31 ส.ค.64)

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ปัจจัยบวกมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่คาดว่าผ่านจุดสูงสุดแล้ว

และจะมีการผ่อนคลายล็อคดาวน์ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ ประกอบกับ FED ยังไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดหุ้นคลายความกังวล ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,633.77 จุด +22.57 จุด +1.40% มูลค่าการซื้อขาย 117,383 ลบ.ต่างชาติ +2,067.70 ลบ. TFEX +8,472 สัญญา ตราสารหนี้ +833.34 ลบ.


ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ +0.68% ปิดที่ 69.21 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าพายุเฮอริเคนไอดาได้อ่อนกำลังลงแล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปคพลัสจะตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันพุธนี้
+ CDC แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า มีวัยรุ่นเสียชีวิตจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังรับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา
+ ส.ว. ลงมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1ล้านล้านบาท
+ สธ.ชี้ผู้เสียชีวิตจากโควิดจะลดลงหลังยอดฉีดวัคซีนมากขึ้น คาดพื้นที่เสี่ยงได้เข็มสามในเดือน พ.ย.
+ ครม.อนุมัติ 4.7 พันล้าน จัดซื้อ วัคซีนไฟเซอร์ เพิ่ม 9,998,820 โดส
+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 14,666 ราย มีผู้เสียชีวิต 190 ราย ชะลอตัวลง รักษาหาย 19,245 ราย

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 55.96 จุด -0.16% ได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้
- IMF เตือนว่า กลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่จะไม่สามารถรับมือกับภาวะ "Taper Tantrum" ซ้ำสองได้อีก โดยภาวะ Taper Tantrum อ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2556 เมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง จนส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่จำนวนมาก หลังจากเฟด ประกาศปรับลดวงเงิน QE
- WHO เรียกร้องให้ยุโรปเร่งการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีการระบาดใน 50 ประเทศในยุโรป
- นักวิทยาศาสตร์ของแอฟริกาใต้ตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ C.1.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีการกลายพันธุ์ในหลายตำแหน่ง
- ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนปรับตัวลงแตะ 117.5 ในเดือนส.ค. จากระดับ 119.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- ก.คลังยอมรับศก.ไทยยังซมพิษโควิด-19 ประชาชนกังวลระบาดหนัก กระทบการลงทุนและชะลอการใช้จ่าย ห่วงคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรมฉุดภาคการผลิต

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสพักตัวออกข้าง หลังจากปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง โดยปัจจัยหนุนยังอยู่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในประเทศ และจำนวนผู้เสียชีวิตเริ่มลดลง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Reopening Play : กลุ่มโรงแรม - MINT ERW CENTEL AWC SHR กลุ่มขนส่ง - BEM BTS
กลุ่มห้างสรรพสินค้า - CPN CRC MBK กลุ่มร้านอาหาร - AU M ZEN กลุ่มบริการ – SPA MAJOR กลุ่มค้าปลีก - CPALL BJC MAKRO
• FTSE Rebalance Large Cap Index หุ้นเข้า BBL, KBANK หุ้นออก BBL-F,BBL-R ,KBANK-F , KBANK-R, AWC, BJC, DIF : Mid Cap Index หุ้นเข้า AWC, BJC, DIF หุ้นออก ไม่มี : Small Cap Index หุ้นเข้า : JMART, STARK หุ้นออก - FTREIT มีผล 17 ก.ย.
• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้น TOP SPRC PTTGC

หุ้นรายงานพิเศษ

                                          KTB - Analyst Meeting

                          (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 12.60 บาท)

•2Q64 มีกำไรสุทธิ 6,011 ล้านบาท +60%YoY +8%QoQ 1H64 มีกำไร 1.16 หมื่นล้านบาท +13%YoY แม้รายได้รวมลดลง 9%YoY และ NIM ลดลง 62 bps เหลือ 2.53% ใน 1H64 เหลือ 3.15% ใน 1H63 %NPL ลดลงเหลือ 3.54% จากระดับ 3.81% ณ ปลายปี 63 ทำให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ลดลง 30%YoY และมีอัตราส่วน Coverage Ratio สูงขึ้นสู่ 160.7% จาก 125.4% ใน 1H63 ปลายมิ.ย. 64 สินเชื่อเติบโต 6.5%YTD ขณะที่สินเชื่อภาครัฐเติบโตสูงถึง 33%YTD ผู้บริหารคงเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ระดับที่ระดับ 3-5%

•แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H64 มีโอกาสแผ่วจาก 1H64 จากสินเชื่อภาครัฐมี yield ต่ำ ขณะที่คชจ.ในการดำเนินงานมีแนวโน้มเร่งขึ้นใน 2H64 ตามฤดูกาลที่มักมีคชจ.ดำเนินงานสูงขึ้นในไตรมาสสุดท้าย ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 18,458 ล้านบาท +10%YoY กำไร 1H64 คิดเป็น 63% ของประมาณการ

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อการเป็นธนาคารที่สนองนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้สินเชื่อมีโอกาสเติบโตสูงจากสินเชื่อภาครัฐที่มีความเสี่ยงต่ำ ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น 12% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาซื้อขายที่ PBV ระดับ 0.46 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 0.65 เท่า IAA Consensus คาด Dividend Yield สูงสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ที่ 3.9% ต่อปี แนะนำ ทยอยซื้อสะสม

หุ้นมีข่าว

(+) RBF ( ฺBloomberg Consensus 20.80 บาท) ปิดบิ๊กดีลใหม่ เซ็นสัญญากับ “ICHI” รับคำสั่งซื้อสารสกัด CBD ในกัญชงระยะยาวข้ามปี ฟาก “ตัน” ประกาศนำทัพเปิดตลาดเครื่องดื่ม CBD พร้อมเดินหน้าเปิดไลน์ผลิตแบบ OEM ให้รายย่อย รุกนำสินค้าส่งออก สร้างรายได้เข้าประเทศ หวังสนับสนุนเกษตรไทยเต็มกำลัง (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) WGE ( ฺBloomberg Consensus - บาท)” คว้างานใหม่ 5 โปรเจกต์ มูลค่ารวมกว่า 646 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกเพิ่มเป็น 3,441 ล้านบาท “เกรียงศักดิ์” มั่นใจรายได้รวมปีนี้ทะลุเป้า 1,500 ล้านบาท ก่อนพุ่งทะยาน 5,000 ล้านบาท ในปี 66 หลังลุยประมูลงานภาครัฐ-บุกงานก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) LEO ( ฺBloomberg Consensus 13.50 บาท) LEO ร่วมทุนกับ Cardinal UK จัดตั้ง "บริษัท คาร์ดินัล มาริไทม์ (ประเทศไทย) จำกัด" เน้นการพัฒนาและขยายธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศอังกฤษ ยุโรปเหนือ เอเชีย ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดย LEO ถือหุ้น 51% เตรียมเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมบุ๊กรายได้เข้าในไตรมาส 4/64 ทันที (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCP ( ฺBloomberg Consensus 30.75 บาท) แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/64 เด่น หลังคาดราคาน้ำมันโลกแกว่งตัวสูงเหนือ 70-75 ดอลลาร์พร้อมปรับโรงกลั่น UCO ดัน EBITDA พุ่ง แย้มมีความสนใจลงทุนแหล่งน้ำมันใหม่แถบนอร์เวย์เพิ่มเติม เล็งดันบริษัทย่อย BBGI เข้าตลาดปลายปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

30 ส.ค. สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยฝากแปะปัจจัยที่ต้องจับตา ในประเทศ

31 ส.ค.-3 ก.ย. อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ลงมติ 4 ก.ย.64

ต่างประเทศ

30 ส.ค. อียูรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

            สหรัฐรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.ค. ดัชนีการผลิตเดือนส.ค. จากเฟดดัลลัส

31 ส.ค. จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนส.ค.

            สหรัฐ เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

1 ก.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากไฉซิน

          สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

2 ก.ย. สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.