พาณิชย์เผยราคาปาล์มทะลุ 6.75- 7 บาท ต่อกก.
พาณิชย์ เผยราคาผลปาล์มทะลายพุ่ง 6.75 บาท ต่อกก. ผลจากโครงการประกันรายได้ และมาตรการคู่ขนานยกระดับราคา "จุรินทร์"ยันเดินหน้า-มาตรการเสริม ต่อเนื่องปีที่ 3
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามรายงานสถานการณ์ราคาผลปาล์มทะลาย (อัตราน้ำมัน 18%) โดยกรมการค้าภายใน รายงานว่า สถานการณ์ราคาจากแหล่งผลิตสำคัญ เช่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่และชุมพร อยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.75 บาท (วันที่ 2 ก.ย.64) และราคาน้ำมันปาล์มดิบ (กทม.)เฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.38 บาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.75 บาทและ 20.50 บาทตามลำดับ โดยวันที่ 30 ส.ค. 64 เกษตรกรที่ขายผลปาล์มคุณภาพดีสามารถขายผลปาล์มได้สูงถึง 7.40 บาท
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาผลปาล์มสูงขึ้นมาจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ที่สร้างความมั่นคงยั่งยืนให้กับเกษตรกรและเป็นการันตีรายได้จากการทำพืชเกษตรหรือพืชทางเศรษฐกิจ โดยเกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ปลูกปาล์มมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปีได้สิทธิ์ไม่เกิน 25 ไร่ต่อราย ราคาเป้าหมายที่ 4 บาทต่อกิโลกรัม โดยใช้ราคาอ้างอิงเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วัน ณ ลานเท หรือ โรงสกัด และขณะนี้รัฐแทบจะไม่ได้ใช้เงินส่วนต่างจ่ายเกษตรกรเนื่องจากปาล์มน้ำมันราคาสูงเกินราคาเป้าหมายที่ประกันรายได้ไว้อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้ดำเนินการมาแล้ว 2 ปี ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มจำนวนกว่า 370,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ จะเดินหน้าปีที่ 3 จะเริ่มตั้งแต่เดือนก.ย. 2564-ก.ย. 2565
นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากการดำเนินการมาตรการคู่ขนานมาตรการคู่ขนานเพื่อช่วยยกระดับราคาสินค้า ประกอบด้วย 1.มาตรการการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลโดยกำหนดให้น้ำมัน B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และให้น้ำมัน B7 และ B20 เป็นทางเลือกซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 เป็นต้นมา 2.โครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกินปี 2564 โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการการส่งออกน้ำมันปาล์มกิโลกรัมละ 2 บาท 3.การบริหารจัดการปริมาณน้ำมันปาล์มทั้งระบบ โดยติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันปาล์มที่ถังเก็บเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า 4.มาตรการบริหารการนำเข้า กำหนดด่านนำเข้าปกติ 3 ด่านที่ มาบตาพุด กรุงเทพและแหลมฉบัง กำหนดด่านนำผ่านต้นทาง 1 ด่านได้แก่ กรุงเทพ ปลายทาง 3 ด่าน ได้แก่ด่านจันทบุรี ด่านหนองคาย และด่านแม่สอด
สำหรับปริมาณผลผลิตน้ำมันปาล์มปี 2564 คาดว่า มีจำนวน 16.372 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีจำนวน15.656 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 4.57% อย่างไรก็ตามผลปาล์มออกสู่ตลาดลดลงตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นมาเนื่องจากผลกระทบจากอากาศแปรปรวนในช่วงที่ผ่านมา ส่วนภาวะการค้าน้ำมันปาล์มภายในประเทศชะลอตัวลงบางส่วนโดยเฉพาะการใช้ด้านพลังงานเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคโควิด-19