แสนสิริ มั่นใจรายได้ปี 64 เข้าเป้า 2.9 หมื่นล้าน

แสนสิริ มั่นใจรายได้ปี 64 เข้าเป้า 2.9 หมื่นล้าน

"แสนสิริ" มั่นใจรายได้ปี 64 โตตามเป้า 2.9 หมื่นล้าน แรงหนุนยอดโอน 8 เดือนแตะ 2.07 หมื่นล้าน-หวังโอนเพิ่มอีก 50% จากแบ็คล็อก 2.6 หมื่นล้าน จับมือ "ไทยพาณิชย์" เสนอขายหุ้นกู้ผ่านออนไลน์มูลค่า 500 ล้าน 16-20 ก.ย. หวังช่วยรายย่อยเข้าถึงการลงทุนได้เท่าเทียม

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ปี 2564 จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 2.9 หมื่นล้านบาท โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดโอนและยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่ 3.1 หมื่นล้านบาทเนื่องจากในช่วง 8 เดือนปีนี้ บริษัทมียอดโอนแล้ว 2.07 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 67% ของเป้าหมายปีนี้ และ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 2.6 หมื่นล้านบาท พยายามเร่งโอนให้ได้ประมาณ 50% ในปีนี้

“แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2564 ยอมรับว่าถูกกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์และคำสั่งปิดแคมป์คนงานของภาครัฐ ซึ่งกินระยะเวลาราว 45 วัน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของไตรมาส ส่งผลให้ยอดโอน Backlog หยุดชะงักไป แต่ภายหลังรัฐบาลผ่อนคลายล็อกดาวน์ บริษัทคาดว่าจะสามารถเร่งโอน Backlog ให้ได้ตามเป้าหมาย 50% ภายในช่วงที่เหลือของปีนี้”

ส่วนยอดขายในช่วง 8 เดือนปีนี้ อยู่ที่ 2.36 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 76% ของเป้ายอดขายปีนี้ และในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการใหม่จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 2.7 พันล้านบาท ได้แก่ เดอะ มูฟ (THE MUVE) ประดิพัทธ์, THE MUVE บางแค, ดีคอนโด (Dcondo) จรัญสนิทวงศ์ และคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จึงคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายได้

แสนสิริ แผนการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2564

สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ 6,000 ล้านบาท ซึ่งได้ปิดการขายไปเมื่อสิ้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทมีสภาพคล่องที่สูงราว 1.7 หมื่นล้านบาท เตรียมพร้อมลงทุนในระยะถัดไปและบริษัทมีแผนที่จะออกและเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติมอีก 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ภายใต้โครงการ “หุ้นกู้แสนสิริ i-EASY” เพื่อแก้ปัญหา (Pain Point) ที่นักลงทุนรายย่อยไม่สามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางปกติ เช่น สาขาธนาคาร หรือบริษัทหลักทรัพย์ได้

ทั้งนี้หุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายผ่านโมบายแบงกิ้ง “เอสซีบี อีซี่” (SCB Easy) ของธนาคารไทยพาณิชย์เท่านั้น ระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย. เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป กำหนดอัตราจองซื้อขั้นต่ำที่ 10,000 บาท ซึ่งต่ำกว่าขั้นต่ำของการจองซื้อหุ้นกู้ผ่านช่องทางปกติประมาณ 10 เท่าแต่ไม่ได้กำหนดเพดานจองซื้อสูงสุด เนื่องจากที่ผ่านมาลูกค้าหุ้นกู้ของแสนสิริจองซื้อสูงสุดราว 5-10 ล้านบาทต่อรายเท่านั้น

โดยหุ้นกู้แสนสิริ i-EASY เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุหุ้นกู้ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนหุ้นกู้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท จะนำไปขยายการลงทุนใหม่ เช่น การซื้อที่ดิน การลงทุนโครงการก่อสร้าง และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ฯลฯ

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ภายหลังบริษัทประกาศความร่วมมือกับแสนสิริในการเสนอขายหุ้นกู้ผ่านออนไลน์นั้นพบว่าบริษัทอื่นๆ สนใจจะออกและเสนอขายหุ้นกู้ผ่านออนไลน์เช่นกัน ซึ่งบริษัทคาดว่าในอนาคตจะได้เห็นการระดมทุนหุ้นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นทางเลือกที่ผู้ลงทุนทุกราย ไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายเล็ก สามารถเข้าถึงได้เท่าเทียมกันทั้งหมด อีกทั้งยังสะดวกสบาย เหมาะกับสถานการณ์โควิด-19 และช่วยลดต้นทุนของธนาคารอีกด้วย