วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (8 ก.ย. 64)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดยังคงกังวลต่อการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้ำมันในทวีปเอเชียของซาอุดิอาระเบีย เป็นสัญญาณว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบในภูมิภาคเอเชียจะยังคงซบเซา
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังตลาดมองว่าการประกาศปรับลดราคาขายน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการ (OSPs) สำหรับน้ำมันดิบทุกเกรดแก่ผู้ซื้อในทวีปเอเชียของซาอุดิอาระเบีย เป็นสัญญาณว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบในภูมิภาคเอเชียจะยังคงซบเซา แม้ว่าตัวเลขการส่งออกสินค้าในเดือน ส.ค. ของจีน จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความน่าสนใจลดลงสำหรับนักลงทุน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบจะมีราคาที่น่าดึงดูดใจน้อยลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
+ นักวิเคราห์คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มจะปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน โดยคาดว่าปรับตัวลดลงราว 3.8 ล้านบาร์เรล ลงมาแตะระดับที่ 421.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่ เหตุการณ์พายุเฮอริเคนไอดาพัดถล่มอ่าวเม็กซิโก ยังคงทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกกว่า 79% ของกำลังการผลิตทั้งหมด หรือคิดเป็น 1.44 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไม่สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคได้รับแรงกดดัน โดยเวียดนามมีการประกาศขยายมาตรการล็อกดาวน์ กรุงฮานอย ออกไปอีก 2 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคฟื้นตัว โดยความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในประเทศปากีสถานปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 32% จากปีก่อนหน้า