พาณิชย์เปิดรับฟังความเห็น “ร่างยุทธศาสตร์การค้าไทย “5 ปี

พาณิชย์เปิดรับฟังความเห็น “ร่างยุทธศาสตร์การค้าไทย “5 ปี

พาณิชย์ เปิดรับฟังความเห็น “ร่างยุทธศาสตร์การค้าไทย” ปี 65-70 กำหนดวิสัยทัศน์ “การค้าไทยเข้มแข็ง เติบโตอย่างทั่วถึง และยั่งยืน รองรับโอกาสการค้าโลก” ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการจัดทำยุทธศาสตร์การค้าของไทยปี 65-70 ว่า สนค.ร่วมกับสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษาสถานการณ์และสภาพแวดล้อมทางการค้า ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดทิศทางการพัฒนาของประเทศ เพื่อจัดทำข้อเสนอยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการค้าของชาติ พ.ศ. 2565 – 2570 ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 64 โดยเปิดรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแล้วหลายครั้ง ขณะนี้ยังเปิดรับฟังความเห็นอยู่ เมื่อรับฟังความเห็นเสร็จสิ้นแล้ว สำนักงานศูนย์วิจัยฯ จะนำความเห็นเหล่านี้มาปรับปรุงร่างยุทธศาสตร์และนำเสนอให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ พิจารณาเห็นชอบก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป 

สำหรับร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว ได้กำหนดวิสัยทัศน์คือ การค้าไทยเข้มแข็ง เติบโตอย่างทั่วถึง และยั่งยืน รองรับโอกาสการค้าโลก ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1.ขับเคลื่อนการค้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยให้ผู้ประกอบการสร้าง และใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีในการผลิตสินค้าและบริการให้สอดคล้องตลาดโลก ดึงดูดการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมศักยภาพ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดิจิทัล 

2.พัฒนาโครางสร้างพื้นฐานการค้าให้เข้มแข็ง โดยพัฒนาระบบและโครงสร้างพื้นฐานทางการค้า เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า ลดต้นทุน และเพิ่มโอกาสขยายตลาด, ปรับปรุงกฎระเบียบให้สะดวกขึ้น เป็นภาระกับผู้ประกอบการน้อยลง และสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป, สร้างเครือข่ายความร่วมมือให้เกิดการบูรณาการและขับเคลื่อนประเด็นการค้า 

3.ส่งเสริมการค้าไทยสู่ตลาดโลก โดยสร้างโอกาสทางการตลาดและเครือข่ายพันธมิตรทางการค้า, พัฒนาตลาดและช่องทางการค้าในอาเซียน, สร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและบริการของไทย และส่งเสริมการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีและธุรกิจบริการสมัยใหม่ 4.ส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภคในประเทศ โดยขยายตลาดและช่องทางการค้าในประเทศ, สร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการใช้สินค้าและบริการที่ผลิตได้ในประเทศ และ5.พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทุนมนุษย์ โดยพัฒนาแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมศักยภาพ, พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง  

นายภูสิต กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ที่จัดทำขึ้น สะท้อนความท้าทาย ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเน้นการสร้างขีดความสามารถและความพร้อม ที่จะรับมือ ฟื้นตัว และใช้ประโยชน์จากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลง,  ต่อยอดและใช้ประโยชน์จากสินค้าและบริการที่โดดเด่นของไทย รวมถึงการสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ ด้วยการใช้นวัตกรรม และสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค 

ขณะเดียวกัน ยังเน้นพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศให้ครอบคลุม ทั่วถึง และเกิดความยั่งยืน สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ชุมชน และท้องถิ่น สามารถพึ่งพาตนเองและเชื่อมโยงกับตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ   และสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้สอดคล้องกัน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ไปจนถึงผู้ประกอบธุรกิจการค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้มากที่สุด