สหรัฐพร้อมร่วมมือไทย-อาเซียน ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด
รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ ขอบคุณ “จุรินทร์” พร้อมประกาศร่วมมือไทย-อาเซียน ฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกหลังโควิด เผย 7 เดือนการค้าไทย-สหรัฐ ขยายตัว 6.19%
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับหนังสือขอบคุณจากนางจีน่า ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาในโอกาสที่นายจุรินทร์มีหนังสือแสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งของนางไรมอนโดก่อนหน้านี้
โดยหนังสือจากสหรัฐระบุว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกับประเทศพันธมิตรในอาเซียนและทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจผ่านการขยายการค้าและการลงทุน โดยได้ย้ำว่าสหรัฐ และไทยมีประวัติศาสตร์การมีส่วนร่วมกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ครั้งการลงนามสนธิสัญญาไมตรี และการพาณิชย์ในปี 2376 หรือกว่า 188 ปีมาแล้ว และโดยที่สหรัฐอยู่ระหว่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงพร้อมที่จะร่วมมือกับไทยในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้า และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจไทย-สหรัฐ ขณะเดียวกันสหรัฐเองก็ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์เต็มที่กับการค้าระหว่างสองประเทศ ตลอดจนเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของภูมิภาค และของโลกต่อไป
อ่านข่าว : สบน.เร่งจัดแผนบริหารหนี้ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิดคลี่คลาย
นางมัลลิกา กล่าวว่า นายจุรินทร์ มีแนวนโยบายที่ให้ความสำคัญกับทุกข้อตกลงที่เกิดจากการเจรจาโดยเฉพาะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย นายจุรินทร์มีบทบาทอย่างสูงในการขับเคลื่อนการเจรจาด้านการค้าระดับต่างๆจนเป็นที่คุ้นเคยของวงการการทูตพาณิชย์ต่างประเทศและรัฐมนตรีด้านการพาณิชย์ในแต่ละประเทศ ทั้งความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP คือความตกลงเขตการค้าเสรี ระหว่าง 10 ชาติสมาชิกอาเซียน และ 5 ประเทศคู่เจรจา ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งนายจุรินทร์เป็นประธาน และ AEM หรือ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ที่เพิ่งประชุมร่วมผ่านไป
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ไทยและสหรัฐมีการหารือกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าเป็นระยะ ผ่านทั้งเวทีการหารือระดับทวิภาคี ที่เรียกว่าการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุน TIFA ที่เน้นการแลกเปลี่ยนความคืบหน้าการดำเนินนโยบายและมาตรการทางการค้า ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน และเวทีการหารือระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเน้นการจัดทำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ช่วงปี 2564-2565 ครอบคลุมประเด็นสำคัญ เช่น การค้าดิจิทัล การอำนวยความสะดวกทางการค้า การเสริมสร้างความพร้อมให้กับวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย ในการประกอบธุรกิจออนไลน์และการค้าดิจิทัล เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมความร่วมมือต่างๆ ที่จัดขึ้นภายใต้แผนงานดังกล่าวก็เพื่อส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียน-สหรัฐ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า 7 เดือนแรกม.ค.-ก.ค.ปี 2564 การค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ มีมูลค่ารวม 971,031.83 ล้านบาท ขยายตัว 6.19% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการส่งออกจากไทยไปสหรัฐ 715,092.87 ล้านบาท ขยายตัว 18.71% และนำเข้าจากสหรัฐ 255,938.96 ล้านบาท หดตัวลง 17.99% โดยสินค้าส่งออกจากไทยไปสหรัฐ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และสินค้าที่ไทยนำเข้าจากสหรัฐฯ เช่น น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ