คลังเล็งเพิ่มค่าน้ำค่าไฟสวัสดิการคนจน

คลังเล็งเพิ่มค่าน้ำค่าไฟสวัสดิการคนจน

คลังเร่งสรุปเพิ่มสวัสดิการคนจนภายในต.ค.นี้ เบื้องต้นเล็งเพิ่มค่าน้ำ-ค่าไฟ ส่วนเกณฑ์ใหม่ในการคัดกรองรายได้ต่อครัวเรือนแทนรายได้ส่วนบุคคล พร้อมทั้ง จะพิจารณาเกณฑ์อื่นเพิ่ม เช่น รถยนต์ และ การถือบัตรบัตรเครดิต

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการให้กระทรวงการคลัง เร่งทบทวนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างทั่วถึง เนื่องจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ดังนั้น จึงถึงเวลาที่จะต้องทบทวนและปรับปรุงเงื่อนไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ถือเป็นการสำรวจข้อมูลประชาชนอีกครั้งด้วย โดยกล่าวว่า ขณะนี้ กำลังรอสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สรุปเงื่อนไขการช่วยเหลือมาเสนอก่อน จึงจะสามารถสรุปเสนอนายกรัฐมนตรีได้ ในเร็วๆ นี้

ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า ขณะนี้สศค.อยู่ระหว่างปรับปรุงเงื่อนไขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ คาดว่า ภายในเดือนต.ค.นี้ จะมีข้อสรุปอย่างแน่นอน โดยในเบื้องต้นจะพิจารณาหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเพิ่มเติม  ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มวงเงินช่วยเหลือค่าน้ำ และค่าไฟ จากปัจจุบันช่วยเหลืออยู่คนละ 230-300 บาทต่อเดือน ส่วนจะปรับเพิ่มเป็นอัตราเท่าใด รวมถึง การเพิ่มสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับสวัสดิการอื่นๆนั้น  จะต้องรอสศค.สรุปและเสนอให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมพิจารณา เพื่อเสนอครม.อนุมัติก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ราว 13.65 ล้านคน  ซึ่งมีคุณสมบัติภายใต้เกณฑ์เดิมที่กำหนดไว้ ดังนี้ มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ว่างงานหรือมีรายได้ส่วนตัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี  ไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.), พันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ หรือถ้ามีทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องมีรวมกันไม่เกิน 100,000 บาท  ส่วนเกณฑ์ใหม่ที่จะนำมาพิจารณาเพิ่มเติมเข้ามา คือ การนำรายได้ต่อครัวเรือน รวมทั้ง กรณีมีรถยนต์ 2-3 คัน และการถือบัตรเครดิต มาพิจารณาประกอบด้วย ส่วนหน่วยงานรัฐที่จะเปิดรับลงทะเบียนใหม่นั้น ในเบื้องต้นจะใช้สถาบันการเงินของรัฐเป็นหลัก