วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (21 ก.ย. 64)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น กว่าสกุลเงินอื่นจึงย้ายการลงทุน
- ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ หลังนักลงทุนกังวลต่อสุขภาพทางการเงินของบริษัทยักษ์ใหญ่ Evergrande ของจีน หลังบริษัทมีความเป็นไปได้ที่จะผิดนัดชำระหนี้ส่งผลให้มีการเทขายในตลาดหุ้น นักลงทุนจึงย้ายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำมากขึ้น จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือเงินในสกุลเงินอื่นสนใจลงทุนในสัญญาน้ำมันดิบลดลง
-/+ บริษัท Shell คาดความเสียหายแท่นขุดเจาะของบริษัทที่มีกำลังการผลิตราว 0.20-0.25 ล้านบาร์เรลต่อวันบริเวณอ่าวเม็กซิโก จะสามารถกลับมาผลิตได้อย่างเร็วที่สุดในสิ้นปี 2564 อย่างไรก็ตาม การผลิตน้ำมันดิบบริเวณอ่าวเม็กซิโกกว่า 70% ของกำลังการผลิตทั้งหมดที่รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดาและนิโคลัสที่เข้าพัดถล่มบริเวณอ่าวเม็กซิโกเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้แล้ว
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังคงกดดันความต้องการใช้น้ำมัน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 6 แสนคนต่อวัน ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงราว 12% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า กดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันเบนซินในประเทศจีนถูกกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในมณฑลฝูเจี้ยนกลับมาปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้รัฐบาลจีนประกาศเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมกิจกรรมทางสังคม กดดันกิจกรรมการใช้รถใช้ถนนในประเทศ
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลและอากาศยานคงคลังสิงค์โปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดีเซลในประเทศเวียดนามปรับลดสะท้อนถึงความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ระดับต่ำ