สวนนงนุช ปรับโฉม ชงรัฐดัน“ไทยเที่ยวไทย”
"สวนนงนุช"ปรับตัวรับผลกระทบโควิด จัดพื้นที่ให้พนักงานอาศัยและทำงานภายในสวน รวมทั้งตรวจเชื้อให้กับพนักงานทุกสัปดาห์ พร้อมปรับปรุงสวนเพื่อรองรับการเปิดท่องเที่ยว
การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทำให้ช่วงที่ผ่านมาต้องหาทางปรับตัว โดย “สวนนงนุช” จังหวัดชลบุรี ได้มีการปรับปรุงสวนเพื่อรองรับการเปิดท่องเที่ยว ซึ่งได้กลับมาเปิดบริการเมื่อวันที่ 8 ก.ย.2564 และรองรับการเปิดเมืองระยะที่ 2 ในวันที่ 1 ต.ค.2564 เพิ่ม 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีและชลบุรี โดยชลบุรีครอบคลุมเมืองพัทยา อ.บางละมุง และ อ.สัตหีบ
กัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่มีโควิด-19 สวนนงนุชโดนผลกระทบเต็ม 100% เพราะลูกค้ากว่า 80% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีคนไทยเพียง 20% และเมื่อมีการประกาศล็อคดาวน์ใน 29 จังหวัด รวมชลบุรีด้วยทำให้นักท่องเที่ยวเหลือศูนย์ จากที่แต่ละวันมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 5,000 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมีรายได้จากนักท่องเที่ยวไทยตามโครงการไทยเที่ยวไทยทำให้มีรายได้จากคนไทยเพิ่มขึ้นบ้าง
ทั้งนี้ ในช่วงที่ปิดสวนก็ไม่ได้หยุดทำงานเราก็มีการปรับปรุงและพัฒนาสวนนงนุชอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมการรองรับการเปิดสวนนงนุชอีกครั้ง ซึ่งช่วงนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยเป็นรายได้หลักแต่สถานการณ์ยังดีกว่าปิดไปเลย
นอกจากนี้ หลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สวนนงนุชมีมาตรการเข้มข้นในการควบควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดตั้งแรกจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้มาตรการ Bubble and seal ซึ่งจัดพื้นที่ให้พนักงานอยู่ภายในสวนนงนุชเพื่อทำงานและพักอาศัย โดยพนักงานไม่ได้ออกไปนอกสวนถ้าไม่จำเป็น รวมทั้งมีการตรวจคัดกรอง
“คนงานที่ต้องไปทำงานข้างนอกก็จะมีการตรวจเชื้อทุกครั้ง รวมทั้งคนนอกที่จะเข้ามาเราก็มีการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้น ซึ่งอุปกรณ์ต่างในการคัดกรอง ตรวจเชื้อและป้องกัน เราออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ได้มีการติดเชื้อ เพราะนอกจากป้องกันพนักงานแล้วก็เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วย”
สำหรับพื้นที่ของสวนนงนุชมีพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ เป็นพื้นที่กว้าง โปร่ง โล่ง สบายและอากาศถ่ายเทได้สะดวก ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดได้ แต่เมื่อที่ผ่านมารัฐบาลสั่งปิดทำให้สวนนงนุชทำตามมาตรการของรัฐบาล และเมื่อได้กลับมาเปิดบริการสวนนงนุชทำให้มั่นใจว่าจะสามารถดูแลเรื่องโควิดได้ดี และยิ่งทุกวันนี้คนเริ่มเครียดจากปัญหาโควิด ถ้ามีสถานที่ผ่อนคลายได้อย่างปลอดภัยก็น่าจะเป็นดีสำหรับคนไทยที่ไม่ต้องเป็นโรคซึมเศร้า และยังช่วยผู้ประกอบการได้บ้างในช่วงสถานการณ์แบบนี้
“สวนนงนุชมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 80% นักท่องเที่ยวไทย 20% หากเดินหน้าโครงการไทยเที่ยวไทย สวนนงนุชพร้อมเปิดรับการท่องเที่ยว การประชุมสัมมนาได้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาทางเราได้พัฒนาและเปลี่ยนแปลงสวนนงนุชให้มากที่สุด เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวไทยเมื่อมาเที่ยวจะแปลกใจกับการเปลี่ยนแปลงของสวนนงนุช ก่อนหน้าที่สวนนงนุชจะปิด นักท่องเที่ยวไทยที่มาเที่ยวมีเสียงตอบรับที่ดีมาก ยืนยันว่าสวนนงนุชพร้อมรับการท่องเที่ยว แต่เราต้องทำตามรัฐบาล บอกให้ปิดเราก็ปิด บอกให้เปิดเราก็เปิด”
นอกจากนี้ หลังจากที่ผ่านมามีการปิดสวนนงนุชทำให้ขาดรายได้แต่มีการหารายได้เข้ามาทดแทน จากธุรกิจรับจ้างจัดสวน ดูแลสวน การออกแบบสวนทั่วประเทศ โดยรับบริการจัดสวนทุกประเภทครอบคลุมทั้งบ้าน สวนสาธารณะและพื้นที่ท่องเที่ยว
ล่าสุดสวนนงนุชได้รับงานปรับภูมิทัศน์หาดภูมิทัศน์ “ชายหาดพัทยา” ของเมืองพัทยา ตามโครงการปรับภูมิทัศน์ชายหาดพัทยาเหนือ-ใต้ หรือ Pattaya New look ตามโครงการ “Neo Pattaya” ซึ่งรายได้จากส่วนนี้ก็เข้ามาสนับสนุนกิจการสวนนงนุชให้อยู่รอดได้ นอกจากนี้สวนนงนุชก็ได้ขอสินเชื่อจากธนาคารเพื่อนำมาเพื่อเป็นค่าจ้างของพนักงาน เพราะหากเราไม่ทำอะไรเลยสวนนงนุชจะแย่ไปมากกว่านี้
“เราต้องช่วยเหลือตัวเองสิ่งใดที่ทำได้ก็ต้องทำ รอเวลาที่สวนนงนุชกลับมาเปิด สิ่งที่เราอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ คือ การฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้มากที่สุด ยิ่งมากเท่าไรก็ยิ่งดี และหากรัฐบาลเลิกล็อคดาวน์ รัฐต้องเร่งโครงการไทยเที่ยวไทยเพื่อกระตุ้นให้คนไทยท่องเที่ยว ผู้ประกอบการก็จะกลับมาดำเนินธุรกิจได้ รากหญ้าก็จะมีรายได้ ปัจจุบันทุกคนก็ปรับตัวเพื่อรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ภายใต้นิวนอร์มอล ซึ่งทางสวนนงนุชพร้อม 100 % สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยว แม้กระทั่งการประชุมสัมมนาก็มีความพร้อมเช่นกัน”
ส่วนการเปิดประเทศภายใน 120 วัน มองว่า คงต้องดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน โดยพิจารณาโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่มีสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้แต่ละวัน ดังนั้นการดำเนินการต้องค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะกลับมาสู่สถานการณ์ปกติคงต้องใช้เวลานับปี โดยสิ่งที่ต้องทำคือการปรับตัวรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหากโครงการไทยเที่ยวไทยเปิดได้ มีนักท่องเที่ยวไทยเข้ามาเที่ยวสวนนงนุชวันแรกแค่ 200 คน ก็พอใจแล้ว หากวันต่อไปเพิ่มเป็น 300-500 คน ก็ยิ่งดี
“ทุกคนต้องพร้อมรับสถานการณ์และปรับตัว ธุรกิจก็เช่นเดียวกันเราพร้อมแค่ไหน ตอนนี้ผมฝันว่า ไทยเที่ยวไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวสวนนงนุช ทำให้มีรายได้จ่ายเงินเดือนพนักงานได้ผมก็ดีใจแล้ว ปัจจุบันรัฐก็ทำดีแล้วแต่อยากให้มองทุกมุมว่าอะไรดีที่สุดขอให้แก้ไขปัญหาให้ดีขึ้นได้เพราะ จะทำให้ทุกคนพอใจคงเป็นไปไม่ได้ “
สำหรับสวนนงนุชพัทยาตั้งอยู่ที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 1,700 ไร่ ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด เช่น กล้วยไม้ เฟิน สับปะรดสี สวนไม้พุ่ม ไม้ดัด สวนหิน สวนฝรั่งเศสกระบองเพชร ปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก และต้นไม้ยักษ์ รวมทั้งสวนสัตว์ สวนผีเสื้อ ไดโนเสาร์โดยผู้ก่อตั้งสวนนงนุช ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในระดับแนวหน้าและเป็น 1 ใน 10 สวนสวยที่สุดในโลก