แม็คกรุ๊ป ผ่าทางตันโควิด กำเงินสดรอจังหวะลุย!
กางโรดแมพ "แม็คกรุ๊ป" แม่ทัพใหม่เก๋าประสบการณ์ “เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์” วางเกมฝ่าวิกฤติโควิด มุ่งรักษาฐานะการเงินแข็งแกร่ง ไร้หนี้สิน กำเงินสด 1.8 พันล้าน รับโอกาสโอกาสเติบโตอนาคต กว้านพันธมิตรเสริมแกร่งออฟไลน์-ออนไลน์ สร้างนวัตกรรม ประสบการณ์ใหม่ มัดใจลูกค้า
พิษโควิดกระทบรุนแรงต่อสินค้าและบริการต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มแฟชั่น หรือสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต! หากแต่ “แม็คกรุ๊ป” กลับมีสถานะสวนตลาด! ภายใต้การกุมบังเหียนของแม่ทัพใหม่แต่เก๋าประสบการณ์ในแวดวง “เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์” รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ นั่งเก้าอี้ซีอีโอเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังร้อนระอุ!
เจมส์ ริชาร์ด กล่าวว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแนวโน้มสถานการณ์โควิดปรับตัวดีขึ้นส่งผลในทิศทาง “บวก” ต่อตลาดโดยรวม และไตรมาสแรกของแม็ค กรุ๊ป ในปีบัญชี 2565 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจแม็คกรุ๊ป หรือที่รู้จักกันดีในนาม "แม็คยีนส์" แบรนด์ยีนส์สัญชาติไทย
โดยระยะสั้น "แม็คกรุ๊ป" พุ่งเป้าหมายทำตลาดประเทศไทย เชื่อว่ายังมีโอกาสอีกมาก จากปัจจุบันแม็คกรุ๊ป มีเครือข่ายสาขา 522 จุดขายทั่วประเทศ และธุรกิจอยู่นอกกรุงเทพฯ และพื้นที่ปริมณฑล 60% เท่านั้น
ขณะที่ตลาดต่างประเทศ 4-5 แห่งที่ขยายไปก่อนหน้านี้ขอพักชั่วคราว!
การขับเคลื่อนธุรกิจแม็คกรุ๊ปยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องแม้ในรอบปีบัญชี 2564 จะเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 ระลอกแล้วระลอกเล่า และหนักสุดในระลอก 4 ที่รัฐบาลออกมาตรการ “ล็อกดาวน์” อีกครั้ง เครือข่ายร้านค้ากว่าครึ่งต้องปิดบริการ ส่งผลให้ยอดขาย 2 เดือนแรกของปีบัญชี 2565 ได้รับผลกระทบ
"แต่เมื่อสถานการณ์การระบาดลดลงและการฉีดวัคซีนมีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทั่งรัฐบาลเตรียมประกาศเปิดเมือง ทำให้มั่นใจว่าปีนี้แม็คกรุ๊ปจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายแน่นอน"
"ภายใต้วิกฤติโควิด แม็คกรุ๊ปนับว่าสตรองไม่น้อย! ด้วยฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน เวลานี้มีเงินสดในมือกว่า 1,864 ล้านบาท รองรับการแสวงหาโอกาสในการเติบโตได้เพิ่มขึ้นในอนาคต"
ซีอีโอ แม็คกรุ๊ป ย้ำว่า แม้จะมีเงินสดพร้อมลุย! แต่เราก็ต้องตัดสินใจว่าจะทำอะไร และจะยังไม่ทำอะไร?
แน่นอนว่าสถานการณ์โควิดที่ยังไม่นิ่ง ตลาดยังมีความผันผวน ทำได้แค่รอจังหวะ! ที่เหมาะสมไปพร้อมกับการเตรียมพร้อมองค์กรให้แกร่งยิ่งขึ้น โดยวางกลยุทธ์มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยเฉพาะด้านการเงิน หัวใจสำคัญของธุรกิจ ที่ต้องคุมเข้มต้นทุนอย่างต่อเนื่อง รักษากำไร ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพทางการผลิตสินค้าและบริการ
ขณะเดียวกัน มุ่งต่อยอดขยายฐานการรับรู้ต่อแบรนด์และชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ เสริมสร้างความแข็งแรงในการสื่อสารแบรนด์ สร้างความจดจำในแบรนด์ สร้างความนิยมในผลิตภัณฑ์ รองรับการขยายฐานลูกค้ากว้างขวางยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มค้าปลีกทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ภายใต้การส่งมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างจากคู่แข่ง
รวมไปถึงพัฒนากลยุทธ์การเข้าถึง “ท้องถิ่น” ด้วยความเข้าใจมากขึ้น โดยมี “บิ๊กดาต้า” จากแม็ค คลับ 1.6 ล้านรายเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงลูกค้าเชิงลึกมากขึ้น และเพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยีและกระบวนการต่าง ๆ สนับสนุนการดำเนินธุรกิจทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) อย่างมีประสิทธิภาพ
"แม็คกรุ๊ป" มีความได้เปรียบจากธุรกิจครบวงจร ต้นน้ำจรดปลายน้ำ ทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับสูง โดยเฉพาะสินค้าคงคลังที่เป็นภาระหนักของธุรกิจรีเทลปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ การเดินเกมรุกมุ่งเจาะตรงกลุ่มเป้าหมาย วางสัดส่วนการขายสินค้า การบริหารช่องทางจัดจำหน่ายเหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลาอย่างลงตัว
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GP) ยังคงอยู่ระดับสูง 59.6% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 57.8% อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin : NP) เพิ่มขึ้นจาก 12.7% ในช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ระดับ 13.7% จากประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ดี โดยสามารถรักษาอัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ไว้ได้ในระดับใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 43%
“นวัตกรรม” และ “พันธมิตร” ยังจะเป็นอีกเครื่องมือสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้กลยุทธ์ออฟไลน์และออนไลน์ของแม็คกรุ๊ป โดยในส่วนของ "ออนไลน์" นอกจาก mcshop.com ยังมีช่องทางมาร์เก็ตเพลส์ ทั้ง ช้อปปี้ ลาซาด้า และ เจดีเซ็นทรัล
ขณะที่ช่องทางออฟไลน์ การขยายสาขามุ่งสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) นับเป็นทำเลศักยภาพ! โดยมี ปตท. เป็นพันธมิตร
“พันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จะเข้ามาสร้างความร่วมมือทางธุรกิจที่จะก่อให้เกิดรายได้หรือกำไรสูงสุด และเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า”
การสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทางออนไลน์ (Online Engagement) จะถูกใช้เชื่อมต่อลูกค้ายุคดิจิทัลมากขึ้น ล่าสุดเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ของแม็คคลับ ใช้งานสะดวกผ่าน LINE OA เป็นการสร้างความภักดีต่อแบรนด์! ผ่านโปรโมชั่นและบริการพิเศษ รวมถึงการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าในกิจกรรมต่างๆ รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก Mc Jeans มีผู้ติดตามราว 1 ล้านคน
“การบริหารจัดการธุรกิจในยามวิกฤติ เรายังคงเดินหน้าสร้างความสามารถในการทำกำไร การดำเนินการลดต้นทุนอย่างจริงจังในทุกส่วนงาน และมุ่งเพิ่มยอดขายให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะที่ยังคงรักษารายได้ และความสามารถในการทำกำไรของช่องทางออฟไลน์ ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานในอันดับแรก ๆ โดยจัดให้พนักงานได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง”
ในปีบัญชี 2564/2565 บริษัทจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 80 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจออนไลน์และธุรกิจออฟไลน์ ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของธุรกิจออนไลน์ใกล้เคียง 15% จะเพิ่มเป็น 20% ในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งมีแผนเปิดสาขาใหม่ 22 สาขา ประกอบด้วย Mc Outlet 15 แห่ง SHOP 4 แห่งและเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้า 3 เคาน์เตอร์
ภายใน 2 ปี ข้างหน้าเตรียมลงทุน 400 ล้านบาท สร้างศูนย์กระจายสินค้าทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ รองรับการเติบโต!