จับตา 4 จังหวัดเสี่ยง ‘วิกฤติ’ อุทกภัย’
กอนช. ระบุ จากอิทธิพลของร่องมรสุมและพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีน้ำท่วมในพื้นที่ 28 จังหวัด โดยสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง บุรีรัมย์ และนครปฐม
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช. ระบุ จากอิทธิพลของร่องมรสุมและพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีน้ำท่วมในพื้นที่ 28 จังหวัด โดยสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง บุรีรัมย์ และนครปฐม ยังคงเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย 23 จังหวัด โดยต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดใน 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ ลพบุรี และ นครสวรรค์
สำหรับภาพรวมสถานการณ์น้ำล่าสุดวันนี้ แม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีปริมาณน้ำทั้งประเทศ 51,754 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 63% ของความจุ ส่วนแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 45,355 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 63% เช่นกัน โดยมีการเฝ้าระวังน้ำมาก 11 แห่ง คืออ่างเก็บน้ำแม่มอก อ่างฯ ทับเสลา อ่างฯ จุฬาภรณ์ อ่างฯลำตะคอง อ่างฯ ลำพระเพลิง อ่างฯ มูลบน อ่างฯ ลำนางรอง อ่างฯ ขุนด่านปราการชล อ่างฯ นฤบดินทรจินดา และอ่างฯ หนองปลาไหล
อ่านข่าว : ข้อปฏิบัติลดเสี่ยงโรคในสถานการณ์น้ำท่วม
ส่วนสถานการณ์อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง พื้นที่ ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมานั้น กอนช. ได้เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด โดยให้กรมชลประทานติดตั้งกาลักน้ำ เพื่อเร่งการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรและติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำมูลให้เร็วขึ้น
ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนับสนุนรถสูบส่งน้ำระยะไกล ช่วยเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร พร้อมวางกระสอบทรายยักษ์ หรือ Big Bag บริเวณคันกั้นน้ำบ้านโนนสง่า เพื่อป้องกันน้ำจากลำห้วยสามบาท ลำห้วยลุง ไหลเข้าสมทบน้ำที่ท่วมขังที่บ้านบึงบัวทอง ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด