158 วัน! แห่งการ “ล็อกดาวน์” โรงหนัง "MAJOR-SF" พร้อมให้บริการ 1 ต.ค. 

หนึ่งในธุรกิจที่ถูกมาตรการรัฐ “ล็อกดาวน์” กินเวลานาน คือ “โรงหนัง” โดยเฉพาะสาขาที่อยู่ในเขตพื้นที่สีควบคุมสูงสุด อย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นเหมือนไข่แดงธุรกิจ ที่ทำยอดขายตั๋ว สร้างรายได้ในระดับสูงให้บริษัท แต่ล่าสุด ศบค.เคาะคลายล็อกให้ธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง นับรวมระยะเวลา 158 วัน แห่งการเสียโอกาส เผชิญความยากในการบริหารต้นทุน ดูแลพนักงาน เมื่อรัฐไฟเขียว เปิดโรงหนังได้ “เมเจอร์ฯ-เอสเอฟ” จึงงัดทุกมาตรการรักษาความสะอาด ปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค

  

•  เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ส่ง 5 แผนแม่บทสร้างความเชื่อมั่น 

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทพร้อมเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ในทันทีที่ ศบค. ประกาศผ่อนคลายให้กิจการโรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ได้วาง 5 แผนแม่บท “สะอาด มั่นใจ ปลอดภัยทุกจุด” ยึดตามหลักเกณฑ์มาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจในการเข้าใช้บริการชมภาพยนตร์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

ทั้งนี้ แผนแม่บทประกอบดัวย 1. พนักงานได้รับวัคซีน 100 %  2.ตรวจคัดกรองก่อนให้บริการ ทั้งลูกค้าและพนักงาน 3.มาตรการเว้นระยะห่าง ไม่สร้างความแออัด ตั้งแต่จุดบริการซื้อบัตรชมภาพยนตร์ ตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติ จุดจำหน่ายป๊อปคอร์นและน้ำ ภายในโรงภาพยนตร์จะจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง 2 ที่นั่ง เว้น 2 ที่นั่ง ระหว่างแถวจะจัดที่นั่งแบบสลับฟันปลา เป็นต้น 

4.ใส่ใจ ความสะอาดในทุกจุดสัมผัส และ5. ลดการสัมผัสเงินสด สู่สังคมไร้เงินสด โดยตั้งแต่ตุลาคม 2564 โรงภาพยนตร์ทุกสาขาในกรุงเทพและปริมณฑลจำนวน 50 สาขา จะงดรับเงินสด มุ่งสู่การเป็นโรงภาพยนตร์ไร้เงินสดเต็มรูปแบบ   

     

•  ทัพหนังฟอร์มยักษ์จ่อคิวฉายเพียบ! 

นอกจากมาตรการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในการกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ช่วงไตรมาสสุดท้ายมีทัพคอนเทนท์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าฉายจำนวนมาก เช่น Black Widow, No Time to Die, Shang-Chi and the Legends ot the Ten Rings, Fast&Furious 9, Spider-man : No way Home ส่วนภาพยนตร์ไทย เช่น ร่างทรง  ส้มป่อย  ผู้บ่าวไทบ้าน ฯ ซึ่งคอนเทนท์เป็นสิ่งที่ “นรุตม์” ย้ำเสมอว่า การที่ผู้บริโภคจะออกจากบ้านมาเสพความบันเทิง รับชมภาพยนตร์ ต้องมี “หนังดี” เข้าฉาย 

นรุตม์ เจียรสนอง

ก่อนหน้านี้ นรุตม์ ได้เล่าถึงทิศทางธุรกิจโรงภาพยนตร์ในเวทีโลก ตลาดใหญ่สุดอย่าง “สหรัฐ-จีน” ได้กลับมาเปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น หนังฟอร์มใหญ่จึงตบเท้าเข้าฉายล่วงหน้าไปบ้าง และนั่นเป็นตัวแปรที่มีผลต่อธุรกิจโรงหนังในไทย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การเคารพทรัพย์สินทางปัญญา ปัญหาการนำหนังฉายเถื่อนยังเกิดขึ้นในประเทศไทย หากมีคนได้ดูก่อน ไม่เพียงจะสปอยล์หนัง แต่ยังตัดโอกาสขายตั๋วให้กับคนที่ดูก่อนด้วย 

นาทีนี้ ผู้ประกอบการโรงหนังเรียกว่าพร้อมมาก!!! ที่จะกลับมาให้บริการ การทำหน้าที่รักษาความสะอาดปลอดภัยจากเชื้อไวรัสเพียงฝ่ายเดียวคงไม่ได้ เมเจอร์ฯ จึงเน้นย้ำให้ลูกค้าทุกคนเป็นหนึ่งในพลังสำคัญที่รักษามาตรฐานส่วนบุคคล ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยหากอยู่ในพื้นที่สาธารณะและรักษาความสะอาดส่วนบุคคลล้างมือด้วยแอลกอฮอลล์หรือน้ำสะอาดเพื่อลดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ด้วย 

• เอสเอฟฯ ชี้โรงหนังถูกล็อกดาวน์นาน 158 วัน!!

พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุด ทำธุรกิจโรงภาพยนตร์ในพื้นที่กรุงเทพฯและหลายจังหวัดถูกปิดหรือ ล็อกดาวน์นานที่สุดตั้งแต่ 26 เมษายน 2564 จนกลับมาเปิดในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 รวมเป็นเวลา 158 วัน 

ขณะที่มาตรการผ่อนคลายให้โรงหนังกลับมาเปิดบริการได้ เครือ เอส เอฟ ไม่เพียงแค่มอบความสุขในการชมภาพยนตร์ แต่ตั้งใจดูแลลูกค้าทุกคนอย่างดีที่สุด นอกจากมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทำต่อเนื่อง บริษัทได้ยกระดับตามมาตรการ “ดูแลด้วยใจ” เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้ดูหนังอย่างมีความสุข สะดวกสบาย มั่นใจ และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งเตรียมความพร้อมด้านพนักงานที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว มีการตรวจคัดกรองด้วยชุดเอทีเคก่อนเริ่มทำงาน 

ส่วนของโรงภาพยนตร์ได้รับการประเมินผ่านมาตรฐาน THAI STOP COVID PLUS (TSC+) ของกรมอนามัย ได้ติดตั้งอุปกรณ์หลอด UVC ภายในระบบปรับอากาศ และอบโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในโรงภาพยนตร์ทั้งหมด รวมถึงติดตั้งเครื่องฟอกอากาศฆ่าเชื้อโรคของบริษัท “BIOZONE” ซึ่งเป็นผู้นำด้านเครื่องฟอกอากาศที่ได้มาตรฐานระดับโลก เป็นต้น 

“การระบาดของโควิดรอบล่าสุด โรงหนังเป็นธุรกิจกลุ่มแรกๆ ที่ต้องหยุดให้บริการ และมักเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับอนุญาตให้เปิดอยู่เสมอ แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยมีคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นจากโรงหนังเลย มาตรการดังกล่าวทำให้เราได้รับผลกระทบหนัก แม้ไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดทั่วประเทศ แต่การปิดสาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ๆ ก็เหมือนกับการถูกปิดทั้งหมด เพราะโรงหนังไม่เหมือนธุรกิจอื่น หนังแต่ละเรื่องมีโอกาสเข้าฉายได้แค่ครั้งเดียว เมื่อสาขาในกรุงเทพต้องปิด ค่ายหนังจำเป็นต้องเลื่อนการเข้าฉายออกไป ทำให้สาขาที่ยังเปิดได้ก็ไม่มีหนังใหม่ฉายไปด้วย”

 

•  SF คิดถึงนะ..อยากเจอ ความในใจภาคธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม โรงหนังที่ตั้งในทำเลไข่แดง ย่านเศรษฐกิจ กำลังซื้อสูง เมื่อถูกปิดตัวนาน การกลับมาเปิดอีกครั้ง ทำให้ “พิมสิริ” แสดงออกถึงความยินดีอย่างยิ่ง และย้ำว่าคอนเทนท์หนังฟอร์มยักษ์ตบเท้าเข้าฉายเกือบทุกสัปดาห์  เช่น The King's Man, The Suicide Squad, Eternals, Venom: Let There Be Carnage และThe Matrix 4 เป็นต้น และที่ขาดไม่ได้ เอสเอฟ ยังอัดแน่นด้วยโปรโมชั่น แคมเปญการตลาดต่างๆ ดึงผู้ชม และการเปิดในช่วงโค้งสุดท้ายปี จึงร่วมกับพาร์ทเนอร์จัดเต็มกิจกรรมมากมาย ทั้งหมดเป็นการต้อนรับทุกคนกลับสู่โรงหนังอีกครั้ง พร้อมติดแฮชแท็ก #SFcomebacktocinema

พิมสิริ ทองร่มโพธิ์

“เราดีใจที่จะได้กลับมาเปิดโรงภาพยนตร์อีกครั้ง เป็นการกลับมาที่เต็มไปด้วยหนังฟอร์มยักษ์ ที่รอให้ทุกคนมาดู ซึ่งตอนนี้จัดตารางกันแล้ว แต่ละสัปดาห์มีหนังใหญ่รอเข้าโรงเกือบจะทุกสัปดาห์” 

พิมสิริ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา โรงหนังมีหน้าที่ในการดูแลความสุขของลูกค้าเมื่อลูกค้าชมภาพยนตร์ที่โรงหนัง แต่ในยุคนี้ไม่ใช่แค่มอบความสุขหรือความสะดวกสบายระหว่างชมภาพยนตร์ แต่ต้อง Keep Caring, Keep Entertaining มอบความห่วงใย เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจ ปลอดภัย และมีความสุข 

“พวกเราชาวเอส เอฟ ขอต้อนรับทุกคน Comeback to Cinema และเราอยากบอกทุกคนว่า SF คิดถึงนะ… อยากเจอ”