Sideway เก็งกำไร SCB CPN HANA (30 ก.ย. 64)

ทางเทคนิค ดัชนีฯ ปิดต่ำกว่า 1620 จุดทำให้ดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะปรับฐานไปที่แนวรับ 1610 / 1600 จุด

กลยุทธ์ลงทุน: แนะนำเก็งกำไร 1) กลุ่มธนาคาร แนะนำ SCB BBL TISCO จากแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลดเวลาเคอร์ฟิว และคาดกำไร 4Q21 ฟื้นตัว หุ้นแนะนำ CPN BEM 3) หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หลังจาก Bond Yield ชะลอตัว ทำให้หุ้นกลุ่ม Technology มีโอกาสฟื้นตัว หุ้นแนะนำ HANA

ปัจจัยบวก: 1) Bond Yield สหรัฐฯเริ่มชะลอการขึ้น ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังจากทรุดหนักวันก่อนหน้า 2) ต่างชาติซื้อสุทธิ ทั้งตลาดหุ้น +1,111.97 ล้านบาท และ Long ใน TFEX สุทธิ 18,828 สัญญา 3) กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ทำให้ค่าเงินบาทเริ่มมีสัญญาณชะลอการอ่อนค่า โดยปิดตลาดแข็งค่าจากช่วงเช้า 4 สตางค์ ปิดที่ 38.85 บาท

ปัจจัยลบ: 1) ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด วิตกจะรุนแรงเหมือน มหาอุทกภัยปี 2011 ซึ่งเคยกระทบต่อฐานการผลิตของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง 2) จับตาการเมืองสหรัฐฯ หลังมีความเสี่ยงเกิด Government Shutdown วันพรุ่งนี้

 

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

     - Opportunity Day วันนี้ ได้แก่ SHREIT TRT VCOM SE BROOK RP

     - ตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ส.ค. ของญี่ปุ่น Consensus คาดว่าจะออกมา -1%

     - ตัวเลข Caixin Manufacturing PMI เดือน ก.ย. ของจีน Consensus คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 49.5

     - ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมนี ประจาเดือน ก.ย. Consensus คาดว่าจะอยู่ที่ +3.4% YoY และ +0.1% MoM

     - ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ Consensus คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว

 

 

 

 

+/-Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวก: ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงช่วงเปิดตลาด ก่อนมีแรงซื้อผลักดันดัชนีฯ ยืนแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน ปิดที่ 1616.98 จุด +0.48 จุด วอลุ่มซื้อขาย 9.3 หมื่นล้านบาท นำบวกโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.34% กลุ่มธนาคาร +1.38% กลุ่มพาณิชย์ +0.23% กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ +0.12% หุ้นบวก >4% DELTA STEC KOOL TKS CPI TCC UMI EE TIPH RICHY BBIK ITD CMC VPO TPS PLANET JWD หุ้นลบ >4% BSM EFORL FORTH TC OTO SDC STC TWZ

+/- ตลาดหุ้นสหรฐฯ ปิดคละ แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ DJIA +0.26% (+90.73 จุด) S&P500 +0.16% แต่ NASDAQ -0.24% จากแรงซื้อหุ้นปลอดภัย ส่วนกลุ่มเทคฯ ยังมีแรงขาย จากวิตกยิลด์พันธบัตร 10 ปี ที่ยังทรงตัวในระดับสูง 1.5% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +0.83% DAX +0.77% FTSE +1.14% จากการช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่ร่วงแรงก่อนหน้า จากคาดการณ์ผลประกอบการออกมาในเชิงบวก

- ราคาทองและน้ำมันดิบปิดลบ: ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว WTI -46 เซนต์ ปิดที่ USD74.83 /บาร์เรล Brent -45 เซนต์ ปิดที่ USD78.64/บาร์เรล เป็นผลจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้วสูงกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรล (Vs คาดลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาทองดิ่งแรง -USD14.60 ปิดที่ USD1,722.90/ออนซ์ จากการแข็งค่าของเงิน USD

 

ประเด็นสำคัญ

+ Oil: OPEC เปิดเผยรายงาน "2021 World Oil Outlook" โดยระบุว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ความต้องการใช้น้ำมัน ทั่วโลกในปี 2023 จะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน แตะที่ระดับ 101.6 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัว จากการแพร่ระบาดของ COVID-19
 

 

 

 

+ Japan: นายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรมว.ตปท. ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งจะปูทางให้นายคิชิดะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น แทนที่นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ที่ประกาศลาออก

- USA: สภาผู้แทนฯ มีมติ 219 ต่อ 212 เสียงเช้าวันนี้ เห็นชอบให้ยกเลิกเพดานหนี้ชั่วคราวไปจนถึงสิ้นปี 2022 แต่คาดว่าวุฒิสภาจะลงมติไม่เห็นชอบในวันนี้ ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าทางออกที่เป็นไปได้ คือ การอนุมัติงบประมาณชั่วคราวไปจนถึงต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งคาดว่าวุฒิสภาฯ จะพิจารณาวันนี้ และสภาผู้แทนฯ จะพิจารณาเห็นชอบในเวลาต่อมา เพื่อป้องกันการเกิด Government Shutdown ขณะที่การขยายเพดานหนี้ คาดว่าจะมีการต่อรองไปจนถึงเส้นตายในวันที่ 18 ต.ค.

- China: China Evergrade เปิดเผยวานนี้ว่า บริษัทมีแผนขายหุ้น มูลค่า 9.99 พันล้านหยวน (1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในธนาคารเสิ้งจิง (Shengjing Bank) ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน เพื่อระดมเงินทุนในช่วงเวลาที่เอเวอร์แกรนด์กำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินจำนวนมาก

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: IRPC CENTEL BEM

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SCB CPN HANA

Derivatives: ถือ Short S50Z21 รอทำกำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)