เปิดเบื้องลึก “วิทยา”ไขก๊อกอธิบดีกรมเจ้าท่า มีอะไรมากกว่า “ปัญหาสุขภาพ” 

ที่ผ่านมาการลาออกของผู้บริหารหน่วยงาน ข้าราชการระดับสูง ไปจนถึงรัฐมนตรี เหตุผลที่ปรากฏตามหน้าสื่อมักเป็นเรื่องของ “ปัญหาสุขภาพ” ทำให้ต้องตัดสินใจทิ้งเก้าอี้ ลงจากตำแหน่งก่อนเวลาอันควร

อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์จากเหตุการณ์ต่างๆ หรือการทำงานก่อนหน้าที่จะมีการลาออกจะพบว่าผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่สำคัญตัดสินใจลาออกนั้นมักมี “เหตุ” และ "ปัจจัย" ที่มากกว่าเหตุผลด้านสุขภาพเช่นเดียวกับ วิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ที่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการขณะที่อายุราชการยังเหลืออยู่ถึง 4 - 5 ปี 

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า "วิทยา" ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ ในตำแหน่งอธิบดีกรมเจ้าท่า โดยหนังสือลาออกลงวันที่ 1 ต.ค.2564 และจะมีผลในวันที่ 1 พ.ย.2564  

โดยให้เหตุผลของการลาออกในจดหมายระบุว่ามีปัญหาทางด้านสุขภาพ และต้องการลาออกไปดูแลครอบครัว

เนื่องจากเมื่อช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อน ได้เข้าไปตรวจสุขภาพพบว่ามีปัญหาทางด้านช่องท้อง อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยทำการรักษานิ่วในถุงน้ำดี จึงต้องการลาออกเพื่อรักษาสุขภาพ

อ่านข่าว : อธิบดีกรมเจ้าท่า ยื่นลาออกราชการ อ้างปัญหาสุขภาพ

แม้เหตุผลด้านสุขภาพจะมีน้ำหนัก หากแต่รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมก็เปิดเผยถึงสาเหตุอีกแง่มุมหนึ่งที่ทำให้วิทยาตัดสินใจลาออกจากราชการนั่นคือ "แรงกดดันในการทำงาน"

เนื่องจากช่วงที่ผ่านมานโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีการเร่งรัดติดตามงานตามนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฎิบัติ ของกระทรวงคมนาคมในทุกหน่วยงานในสังกัดอย่างเข้มงวด อีกทั้งยังเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมาย และมีกำหนดประเมินผลปฏิบัติงานของข้าราชการทุกๆ 3 เดือน 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาการทำงานของกรมเจ้าท่ายังมีการดำเนินงานล่าช้าในเรื่องของการแก้ไขกฎระเบียบ ข้อปฎิบัติ และกฎหมาย รวมทั้งขั้นตอนการออกใบอนุญาติ ต่อใบอนุญาติ เรือ ท่าเรือ มีการใช้ขั้นตอนเป็นระยะเวลายาวนานกว่าที่มีการขีดเส้นให้มีการทำงานทำให้เป็นแรงกดดันในการทำงานของผู้บริหารกรมฯ

รายงานข่าวระบุว่าในช่วง 1 - 2 วันที่ผ่านมา วิทยาได้เข้ามารายงานความคืบหน้าการทำงานให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมทราบที่กระทรวง ก่อนที่จะมีการตัดสินใจยื่นใบลาออกในที่สุด 

สำหรับประวัติของวิทยา ยาม่วง เกิดวันที่ 22 ก.ย. ปี 2508 จบการศึกษาจากนักเรียนจ่าทหารเรือรุ่นปี 2524 นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2539 เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 51 และรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยการทัพเรือ กองทัพเรือ รุ่นที่ 44 วปอ.รุ่นเดียวกับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข

เริ่มรับราชการที่กองทัพเรือ เมื่อปี 2526 ก่อนที่จะย้ายมารับราชการที่กรมเจ้าท่า ในปี 2533 เติบโตในสายงานต่างๆมาตามลำดับและ ดำรงตำแหน่งสำคัญในกรมเช่น ผอ.สํานักส่งเสริมการขนส่งทางน้ำและการพาณิชยนาวี ผอ.สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 (สงขลา), ภูมิภาคที่ 5 (ภูเก็ต)

 ในปี 2544 ได้เลื่อนเป็น ผอ.สํานักกฎหมาย, ผอ.สํานักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 (อยุธยา) ต่อมาปี 2559 ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ ขยับเป็นผู้ตรวจราชการ เมื่อต้นปี 2562 และดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเจ้าท่าในปี 2563 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเร็วๆนี้ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคมที่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้คือ นายปฐม เฉลยวาเรศ อดีตอธิบดีกรมทางหลวงชนบท

โดยการยื่นลาออกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา หลัง ครม. มีมติอนุมัติโยกย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการระดับสูงหมุนเวียนสังกัดกระทรวงคมนาคม จำนวน 3 ราย ซึ่งครม.มีคำสั่งโยกย้ายนายปฐมไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง

ต่อมานายปฐมได้ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกในวันเดียวกัน ด้วยระบุว่าสืบเนื่องจากปัญหาสุขภาพ และการลาออกจะมีผลในวันที่ 15 ต.ค.นี้