นายกสมาคมอสังหาฯนนทบุรีตั้งการ์ดสูง!เฝ้าระวังน้ำท่วม
นายกสมาคมอสังหาฯนนทบุรี เผยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ เชื่อไม่รุนแรงเท่าปี54 เหตุหมู่บ้านเกิดใหม่ปรับระดับดินถมเพิ่มระดับความสูงของโครงการรองรับสถานการณ์น้ำท่วมไว้แล้ว
แม้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักและปริมาณฝนที่ตกในปี2564 ไม่เท่ากับปี 2554 แต่หลังกรมชลประทานแจ้งเตือนให้ จ.นนทบุรี และปทุมธานี ส่งสัญญาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วม และกทม.ได้เตือนประชาชนในพื้นที่ 9 เขตที่อยู่นอกแนวคันป้องกันน้ำท่วมเตรียมขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูงพร้อมเกาะติดสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
นายปรีชา กุลไพศาลธรรม นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี ยอมรับว่า มีความกังวลกับสถานการณ์น้ำเช่นกัน แต่จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า สถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้จะมีรุนแรงเท่ากับปี2554 แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจหรือวางใจได้ประสานไปที่ผู้ว่าฯจังหวัดเพื่อสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์พร้อมกับติดตามข้อมูลข่าวสารที่ประกาศออกมาอย่างใกล้ชิด อาทิ พื้นที่ปากเกร็ด บางกรวย เป็นที่ราบลุ่มต่ำอยู่แล้ว ซึ่งทุกปีในเมืองนนท์แถวปากเกร็ดหรืออำเภอเมืองจะมีประเด็นในเรื่องของปริมาณน้ำสูงแต่ไม่ได้ท่วม
"ในปีนี้เรามีความกังวลมากกว่าเดิม แต่สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ตั้งแต่ปี2554 เป็นต้นมาในการขออนุญาติจัดสรรทำโครงการทางบอร์ดจัดสรรส่วนราชการรวมทั้งเอกชนผู้พัฒนาโครงการจะมีการอ้างอิงข้อมูล ระดับน้ำท่วมในปี2554 ในการปรับระดับดินถมและระดับความสูงของโครงการเอาไว้แล้ว ดังนั้น ถ้าน้ำไม่ได้ท่วมมากว่าปี2554ในสวนของโครงการหมู่บ้าน ใหม่ๆที่เกิดหลังจากเหตุกาณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ก็ยังไม่น่ากังวลมากแต่ถ้าท่วมมากกว่าถึงจะมีประเด็น แต่โดยภาพรวมเป็นการเฝ้าระวังมากกว่า"
ทั้งนี้ เนื่องจากข้อมูลของปริมาณน้ำในปีนี้ยังน้อยกว่าปี2554 ขณะเดียวในส่วนปลายทางที่ท่าทราย ซึ่งขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทำเขื่อนก็ยังมีถุงทราย ปั๊มน้ำวางขายตามปกติไม่ได้มีการซื้อขายผิดปกติ ที่ส่งสัญญาณว่า ต้องรับมือกับปริมาณน้ำที่เข้ามา จึงเชื่อว่า น้ำท่วมครั้งนี้จะไม่รุนแรงเท่าปี2554แต่ก็ต้องไม่ประมาท กับสถานการ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น