วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (5 ต.ค. 64)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดมากกว่า 3 ปี หลังกลุ่มโอเปคพลัสคงมติการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมครั้งล่าสุด
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดมากกว่า 3 ปี หลังกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร (โอเปคพลัส) คงมติการปรับเพิ่มการผลิตที่ 4 แสนบาร์เรลต่อวันสำหรับเดือน พ.ย.64 ในการประชุมครั้งล่าสุด จากปัจจัยการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันโลก แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางกลุ่มจะมีการพิจารณาปรับการผลิตเพิ่มมากกว่ามติที่มีการตกลงไว้ ส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น
+ อุปสงค์น้ำมันปรับเพิ่ม หลังได้รับแรงหนุนราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 300% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่งผลให้โรงไฟฟ้าหลายแห่งในตะวันออกกลางและเอเชียใต้ มีการนำเข้าน้ำมันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงแทนที่ก๊าซธรรมชาติสำหรับการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น
+ องค์การอนามัยโลกรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันทั่วโลก ล่าสุด ณ วันที่ 4 ต.ค.64 อยู่ที่ระดับ 257,172 รายลดลงจาก 655,298 รายในเดือนก่อนหน้า หรือคิดเป็นการปรับลดกว่า 60% ขณะที่จำนวนผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับมากกว่า 40% สนับสนุนความต้องการฟื้นตัวเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับเพิ่มหลังมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางในหลายประเทศมากขึ้น ขณะที่อุปสงค์จากจีนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลวันชาติ (Golden Week)
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดน้ำมันดีเซลในเอเชียตึงตัวมากขึ้นจากการปรับลดอัตราการดำเนินการผลิตของโรงกลั่นอินเดีย ท่ามกลางการส่งออกจากประเทศในแถบเอเชียเหนือที่ปรับตัวลดลง