“สุพัฒนพงษ์” ชี้ รัฐบาลเตรียมพร้อมอัดงบฟื้นฟูหลังน้ำท่วมคลายทุกข์ประชาชน
“สุพัฒนพงษ์” ชี้ รัฐบาลเตรียมพร้อมอัดงบฟื้นฟูหลังน้ำท่วมคลายทุกข์ประชาชน ล่าสุดนำทีมผู้บริหาร-ปตท.ลงพื้นที่ จ.สระบุรี มอบถุงยังชีพ 1,000 ชุด ระบุ สถานการณ์ไม่น่ากังวลเท่าปี 2554 เร่งประเมินความเสียหาย
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ หน่อแก้ว รองปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมคณะผู้บริหารบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และให้กำลังใจผู้ประสบภัย พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยเบื้องต้น
นายสุพัฒนพงษ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสระบุรี ถือเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากมีระดับน้ำท่วมที่ค่อนข้างสูง จากการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ โดยมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสระบุรี เสาให้ บ้านหมอ เฉลิมพระเกียรติ วิหารแดง ดอนพุด หนองโดน หนองแซง วังม่วง แก่งคอย และมวกเหล็ก
อ่านข่าว : "นายกฯ" สั่ง "ก.คมนาคม" เร่งซ่อมทาง-ราง ที่เสียหายจากน้ำท่วม
ทั้งนี้ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีทั้งเป็นบ้านเรือนประชาชน พื้นที่ทำกิน อาทิ พื้นที่ทำการเกษตร การประมง ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการเร่งสำรวจความเสียหายและเข้าให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ประกอบอาชีพอย่างเร่งด่วน ขณะนี้ น้ำท่วมในจังหวัดสระบุรีมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักเริ่มลดลงจากเดิมอยู่ที่ 800 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ลดลงอยู่ที่ 744 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสระบุรีครั้งนี้ เป็นภารกิจต่อเนื่องของกระทรวงพลังงานในการร่วมบูรณการการแก้ปัญหาและเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ ตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้สั่งการให้รัฐมนตรี และ ส.ส.ทุกคน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงาน ร่วมมือร่วมใจลงพื้นที่ประสบอุทกภัย ซึ่งนอกจากจะเป็นการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว ยังนำถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ชุด โดยความร่วมมือจาก ปตท.มามอบให้กับประชาชนในพื้นที่ ตำบลดาวเรือง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นก่อน
รัฐบาลได้เร่งพร่องน้ำเหนืออย่างต่อเนื่อง โดย 4 วันที่ผ่านมาพื้นที่สระบุรีน้ำท่วมสูงกว่า 2เมตร วันนี้ลดลงแต่ยังมีระดับน้ำที่สูงอยู่ จึงกำชับไม่ให้ประมาท โดยย้ำเตือนหน่วยงานแต่ละจังหวัด ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เชื่อว่าสถานการณ์ต่อจากนี้จะเป็นไปได้ดี เพราะตอนนี้การระบายน้ำลงทะเลต่อวันเป็นปริมาณที่สูงสามารถรองรับพายุลูกใหม่ที่จะเข้ามาอีกเร็วๆ นี้ และจะไม่รุนแรงเท่าปี 2554 ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลได้เตรียมป้องกันไว้ สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วมปีนี้นั้น มองว่าไม่ค่อยเยอะ โดยงบประมาณที่จะสนับสนุนรัฐบาลได้เตรียมไว้แล้ว อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบและความเสียหาย ส่วนกลางได้ทีการคาดคะเนสถานการณ์ไว้แล้ว อยากให้เชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาล อีกทั้งพายุที่จะเข้ามาอีก 2 ลูก จะไปทางภาคอีสาน โดยสิ่งสำคัญคือเมื่อน้ำลดปัญหามีต่อ ประชาชนต้องเร่งทำความสะอาดบ้านเรือน ปตท.จะเข้าพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ให้กลับสู่สภาพเดิมให้เร็วที่สุด
"ตอนนี้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) หรือสศช. และกระทรวงการคลัง ได้เร่งหารือถึงมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ว่าจะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งต้องดูให้สอดคล้องกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย ขณะเดียวกัน ภาครัฐพร้อมสนับสนุนนโยบายเปิดเมืองในพื้นที่ต่างๆ ให้มีความเหมาะสม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน รวมถึงหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจในสังกัดได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยแล้วใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดลพบุรี จังหวัดนครปฐม และสมุทรปราการ และยังมีแผนลงพื้นที่ช่วยเหลืออุทกภัยในจังหวัดอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง