ศบค. ลด ‘เคอร์ฟิว’ 5 ทุ่มถึงตี 3 พร้อมลดพื้นที่ควบคุม

ศบค. ลด ‘เคอร์ฟิว’ 5 ทุ่มถึงตี 3 พร้อมลดพื้นที่ควบคุม

ผลประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เบื้องต้น นายกฯเคาะลดเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่มถึงตี 3 พร้อมจับตาลดพื้นที่ควบคุมสูงสุด 24 จังหวัด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศบค.) เป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยมีการจับตาถึงการพิจารณาผ่อนคลายหลายมาตรการเพื่อให้สอดรับกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1พ.ย.นี้ 

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมศบค. มีมติปรับลดเวลาการห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลากลางคืน หรือเคอร์ฟิว จากเดิม 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ นอกจากประเด็นลดเคอร์ฟิว มีกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอให้ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาผ่อนคลายเพิ่มเติม รวมถึงพิจารณาปรับระดับสีใหม่ ให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือสีแดงเข้ม เหลือ 24 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือพื้นที่สีแดง 29 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมหรือสีส้ม 24 จังหวัด

ส่วนกิจการกิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้ม จะเสนอให้ผ่อนคลายและปรับมาตรการคือ ให้สามารถจัดการประชุมรวมถึงงานประเพณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้ โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี 

สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน พื้นที่เฝ้าระวังระวังสูง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 300 คน และพื้นที่เฝ้าระวัง ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการกิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาสูตรฉีดวัคซีนแบบไขว้ คือฉีดแอสตราเซนเนกาตามด้วยไฟเซอร์ อีกทั้งจะมีเสนอให้ที่ประชุมพิจารณามาตรการแนวทางการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในวันที่ 1 พ.ย. 2564 รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆ ก่อนที่จะอนุญาตเปิดสถานบันเทิงให้ดื่มกินได้วันที่ 1 ธ.ค. 2564  โดยข้อเสนอเหล่านี้ ต้องรอมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 14 ต.ค. 2564 อย่างเป็นทางการต่อไป