ศบค.ลดเวลาเคอร์ฟิว (วันที่ 15 ตุลาคม 2564)

ศบค.ลดเวลาเคอร์ฟิว (วันที่ 15 ตุลาคม 2564)

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวกสลับลบ ถึงแม้ว่าตลาดมีปัจจัยบวกจากการที่ศบค. มีมติเตรียมเปิดประเทศ-คลายล็อคมาตรการ-ลดเวลาเคอร์ฟิว

โดยดัชนีได้ตอบรับในเชิงบวกในวันก่อนหน้าที่นายกได้แถลงเปิดประเทศ แต่ด้านตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระดับ 1.1 หมื่นคน ประกอบกับปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัด ยังคงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ดัชนี ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้น ช่วยพยุงตลาด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,640.97จุด -2.67 จุด -0.16% มูลค่าการซื้อขาย 84,964 ลบ. ต่างชาติ +1,152.00 ลบ. TFEX -5,177 สัญญา ตราสารหนี้ +3,951.97 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 534.75 จุด +1.56% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ และการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ +1.1% ปิดที่ 81.31 ดอลลาร์/บาร์เรลสูงสุดในรอบ 7 ปี ขานรับข่าวซาอุดีอาระเบียปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสหรัฐที่ต้องการให้กลุ่มโอเปคพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
+ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 293,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่า 300,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
+ รมว.คลังจากกลุ่มประเทศ G20 สนับสนุนข้อตกลงการกำหนดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลกที่ระดับ 15% รวมทั้งกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ พร้อมให้คำมั่นว่าจะใช้มาตรการตามความจำเป็นเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ท่ามกลางภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน
+ ศบค.ไฟเขียวลดเคอร์ฟิว 5 ทุ่ม-ตี 3 คลายล็อกชุดใหญ่ เตรียมพร้อมเปิดประเทศ 1 พ.ย
+ฟิตช์ เรตติ้งส์ประเมินเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นในปีหน้าจากอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น

 

ปัจจัยลบ

- เฟด เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในช่วงกลางเดือนพ.ย. หรือกลางเดือนธ.ค.ปีนี้
- ปธน.โจ ไบเดนแห่งสหรัฐเรียกร้องให้ภาคเอกชนช่วยบรรเทาปัญหาคอขวดด้านห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งส่อแววส่งผลกระทบต่อช่วงเทศกาลวันหยุดของสหรัฐ และรัฐบาลมีแผนยกเครื่องระบบห่วงโซ่อุปทานทั่วประเทศ
- สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) +0.5%MoM ในเดือนก.ย. แผ่วลงจาก +0.7% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าคาดที่ 0.6%
- IEA เปิดเผยว่า วิกฤตพลังงานทั่วโลกจะผลักดันให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่า 500,000 บาร์เรลต่อวันอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
- กรมอุตุนิยมวิทยา "พยากรณ์อากาศ" วันนี้ 51 จังหวัดทั่วไทยฝนถล่มหนัก เตือนระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลาก กทม.และปริมณฑลไม่รอดโดนด้วย ฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่
-ตลท.เผย 9M64 บจ.แห่เพิ่มทุน กว่า 8.4 หมื่นลบ. +15.5%YoY เพิ่มสภาพคล่อง ขยายธุรกิจ และชำาระคืนหนี้
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 10,486 ราย มีผู้เสียชีวิต 94 ราย รักษาหาย 10,711ราย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากแรงหนุนจากตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ลดลง และศบค.ผ่อนคลายเคอร์ฟิว 5 ทุ่มถึงตี 3 ขณะที่นักลงทุนยังจับตาน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลากในหลายจังหวัด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1630-1,650 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ : TOP SPRC ESSO PTTGC
• เปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัว : MINT ERW CENTEL AWC SHR ASAP AOT AAV BA
• ครม.ไฟเขียวจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง : ROJNA WHA EGCO
• ศบค.ลดเวลาเคอร์ฟิว : CPN CRC MBK CPALL BJC BEM BTS M AU ZEN
 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                   TISCO (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 105 บาท)
                กำไรงวด 3Q64 แผ่ว QoQ YoY ต่ำกว่าคาดการณ์ Consensus 1%

ศบค.ลดเวลาเคอร์ฟิว (วันที่ 15 ตุลาคม 2564)

•งวด 3Qรายงานกำไร 1,561 ลบ. -6%QoQ -3%YoY เนื่องจากได้รับผลกระทบในช่วงที่มีมาตรการ lockdown 2 เดือนส่งผลให้รายได้ดบ.สุทธิลดลง 5%YoY จากการชะลอตัวของเงินให้สินเชื่อและลูกหนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ชำระคืนหนี้ก่อนกาหนด ขณะที่ต้นทุนเงินทุนที่ลดลงส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดบ.สุทธิ (NIM) ปรับขึ้นสู่ 4.88% จาก 4.79% ในงวด 2Q64 และ 4.7% ในงวด 3Q63 รายได้ที่มิใช่ดบ.ลดลง 25%QoQ จากค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อลดลง รายได้ค่านายหน้าจากธุรกิจหลักทรัพย์ลดลง และรับรู้ผลขาดทุน (MTM) พอร์ตเงินลงทุน 110 ลบ.จากภาวะตลาดผันผวน งวด 9M64 กาไร 4,990 ลบ. +12.7%YoY

•คุณภาพสินทรัพย์ปรับดีขึ้นโดยมี %NPL ราว 3% ต่ำกว่าคาดไว้ที่ 3.4-3.5% ทำให้อัตราการตั้งสำรองฯดีเกิดคาดหมาย ส่งผลให้คชจ.ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) -55%QoQ -58%YoY

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคตที่คาด 4Q64 +QoQ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64 เฉลี่ย 6,546 ลบ. +8%YoY ESG score 63.77 (เต็ม 100) ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 1.96x สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่เท่ากับ 0.71x IAA Consensus คาด Yield 7.1% ต่อปีเป็นระดับที่น่าสนใจถือลงทุนรอรับเงินปันผล

 

หุ้นมีข่าว

(+) CPANEL ( Bloomberg Consensus - บาท) เผยแนวโน้มไตรมาส 3/64 คึกคัก ลูกค้าให้ความสนใจ จ่อคิวสั่งผลิตภัณฑ์ Precast Concrete เพียบ แย้มโค้งสุดท้ายของปีลุ้นเซ็นสัญญา 4 โครงการ มูลค่ากว่า 190 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเจรจางานใหม่ต่อเนื่อง เตรียมแผนชำระหนี้สถาบันการเงิน D/E ลด ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 30% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ACG ( Bloomberg Consensus 1.33 บาท) เร่งเครื่องทยอยเปิดศูนย์ FAST FIT ในกรุงเทพฯ จำนวน 3 แห่ง ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. 2564 คาดสิ้นปี 2564 เปิดครบ 6 สาขาตามเป้า ด้านยอดขายรถยนต์ไตรมาส 4/2564 เป็นไฮซีซัน จัดโปรโมชั่นพร้อมกระตุ้นยอดขาย แม้โควิด-19 กระทบ แต่มั่นใจผลการดำเนินงานปี 2564 ดีกว่าปี 2563 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EKH ( Bloomberg Consensus 8.75 บาท) เฮ! รับอานิสงส์รัฐเตรียมเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ข่าวดีลูกค้า IVF ชาวจีน แห่เดินทางเข้ารับค้าปรึกษาเพิ่มจำนวนมากในไตรมาส 4/2564 นี้ ฟุ้งผลงานปี 2564 ทุบสถิติใหม่สูงสุด เติบโตกว่า 50% จากปีก่อน พร้อมเดินหน้าลงทุนธุรกิจเฮลธ์แคร์เพิ่มเร็วๆ นี้ เคาะแผนร่วมทุนโครงการใหม่ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SHR ( Bloomberg Consensus 5.00 บาท) ส่งซิกไตรมาสสุดท้ายสัญญาณบวก เล็งธุรกิจโรงแรมอังกฤษ-มัลดีฟส์ กลับมาฟื้นตัวรับไฮซีซัน แถมคลายล็อกดาวน์อังกฤษ ไทย มอริเชียส เริ่มเปิดให้บริการเดือนต.ค.เป็นต้นไป พร้อมต่อยอดโปรเจ็กต์ Crossroads เกาะ 3 ตามแผน คาดแล้วเสร็จกลางปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)