Sideways Up เก็งกำไร BROOK AS JTS (18 ต.ค. 64)

(และเกิดแรงซื้อเพิ่ม หากทะลุแนวต้านเดิม 1658 จุด) ไฮไลท์ คือ กระแสเงินทุน ต่างชาติเริ่มหันกลับมาซื้อคืนตลาดหุ้นโลก และทิศทางค่าเงิน USD เริ่มกลับมาอ่อนค่าสัปดาห์แรก หลังพุ่งแรงตลอด 5 สัปดำห์

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ Selective Buy 1. กลุ่มพลังงาน PTT PTTGC TOP BANPU รับโมเมนตัมบวก จากปัญหา Energy Crunch ในจีน อียู อินเดีย และคาดผลกำไรเติบโตดีขึ้น YoY 2. หุ้นกลุ่มอิงการเปิดประเทศ เปิดเมือง ที่ราคาหุ้นยังคงมีส่วนลดเทียบกับช่วง Pre-COVID-19 ได้แก่ SPA ERW BTS BEM AOT BJC CPALL CPN AWC WHA VGI MAJOR M ZEN 3. แนะนำ Short Against Port กลุ่มเรือ PSL TTA หลังค่าระวำงเรือวันศุกร์ ร่วงแรง -4.11% (-208 จุด)

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

          - แรงขายกองทุนในประเทศ เป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลับมาขาย
สุทธิ -9.59 พันล้านบาท (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +1.17 พันล้านบาท)
          - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8 +9.42 พันล้านบาท แต่กลับมาเปิด
Short SET50 Index Future -4,276 สัญญา (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า ซื้อตลาดหุ้นไทย
1.91 พันล้านบาท และ Long SET50 Index Future สูงถึง 29,807 สัญญา)
          - การรายงานผลประกอบการ 3Q21E สหรัฐฯ และไทย คาดส่งผลกระทบต่อหุ้นรายตัวและ
รายอุตสาหกรรม โดยวันนี้สหรัฐฯ จับตาผลกำไรของ State Street, Bank of NY
Mellon Corp (กลุ่มการเงินที่ผ่านมารายงานกำไรสูงกว่าคาด) ส่วนไทยจับตาผลกำไร
ของกลุ่มธนาคารฯ สัปดาห์นี้ (ที่ผ่านมา KTC รายงานกำไรต่ำกว่าคาดการณ์ของ BB
Consensus -20% แต่ TISCO กำไรใกล้เคียงคาดการณ์)

 

 

 

- ตลาดหุ้นโลกเกิดภาวะ Risk on ต่อสินทรัพย์เสี่ยงรอบใหม่ หลังแนวโน้มผลประชุมเฟด
ในวันที่ 2 - 3 พ.ย. คาดว่าจะไม่ใช้นโยบายคุมเข้มนโยบายการเงินที่เข้มงวด และผล
กำไรบจ. 3Q21 ออกมาสูงกว่าคาด
- จีนรายงาน 3Q21E GDP Growth เช้าวันนี้ คาดปรับลดลงจาก 2Q21 ที่เติบโต 7.9%
YoY, 1.3% QoQ (BB Consensus คาด 5.3% YoY, 0.7% QoQ / CNBC คาด 7.7 -
8.8% YoY)

 

+Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

        - ตลาดหุ้นไทยปิดลบต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways Down
กรอบ 1651.41-1635.14 จุด ก่อนรีบาวด์ท้ายตลาดมาปิดที่ 1638.34 จุด -2.63 จุด วอลุ่ม
ซื้อขาย 8.47 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ -0.88% ปิโตรเคมีและ
เคมีภัณฑ์ -0.86% พลังงานและพาณิชย์ -0.6% หุ้นปรับขึ้น >4% ได้แก่ ITD CHO CI
AS SVI AF SMT DIMET PRECHA BSM หุ้นปรับลง >4% ได้แก่ U PSL UBIS RCL
TTA BANPU-W4 BANPU-W5 U-P UREKA PAF AMC ECF TKS KSL SE SVT

        + ตลาดหุ้นโลกปิดบวกแรงต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่อง DJIA +1.09%
(+382.20 จุด) S&P500 +0.75% NASDAQ +0.50% นำขึ้นโดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย
+1.76% กลุ่มธนาคาร +1.51% รับผลบวกจากรายงาน 3Q21 Earnings Results ที่
ดีกว่าคาดของ Goldman Sachs และรายงานค้าปลีกเดือน ก.ย. ที่แข็งแกร่งและดีกว่า
คาด +0.7% MoM (Vs คาด +0.2% MoM และเดือน ส.ค. +0.9% MoM) ส่วนตลาดหุ้น
ยุโรปปิดบวก CAC40 +0.63% DAX +0.81% FTSE +0.37% ได้รับแรงหนุนจากการ
คาดว่าบจ. จะรายงาน 3Q21 เติบโต 46.7% YoY และประธานอีซีบี ลาการ์ด ส่งสัญญาณ
การปรับขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเพียงชั่วคราว และไม่กระทบการจ้างงาน นำขึ้นโดยกลุ่ม
ธนาคาร ค้าปลีก น้ำมันและก๊าซ
 

 

 

 

+/- ราคาน้ำมันดิบปิดบวก ส่วนทองคำร่วงแรง: ตลาดน้ำมันดิบปิดบวกต่อเนื่อง WTI +97 เซนต์ ปิดที่ระดับสูงสุดรอบ 5 ปี ที่ USD82.28/บาร์เรล Brent +86เซนต์ ปิดที่ USD84.86/บาร์เรล สูงสุดรอบ 3 ปี หลังจาก IEA ปรับเพิ่มอุปสงค์น้ำมันโลกปี 2021-22E จำนวน 5.5 ล้านบาร์เรล เป็น 96.3 ล้านบาร์เรล และ 3.3 ล้านบาร์เรล เป็น 99.6 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการเกิดวิกฤติพลังงาน ส่วนราคาทองคำดิ่งแรง -USD29.60 ปิดที่ USD1,768.30 /ออนซ์ จากแรงขายสินทรัพย์
ปลอดภัย

 

ประเด็นสำคัญ

- SET: ตลาดฯ เปิดเผยรายชื่อที่เข้าเกณฑ์ Cash Balance ระหว่างวันที่ 18 ต.ค. - 26 พ.ย. ได้แก่ ARIN CRD JAS NWR SOLAR TH U U-P U-W4 YGG สำหรับระดับ 1 และ SANKO สำหรับระดับ 2

- China: บริษัทอสังหาฯ ของรัฐบาลจีน Yuexiu Property ถอนตัวจากข้อตกลงมูลค่า USD1.7bn. ที่จะซื้ออาคารสำนักงานใหญ่ของ China Evergrande ในฮ่องกง

- EU: ยอดขายรถยนต์โดยสาร (Passenger Cars) ในอียู เดือน ก.ย. เติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1995 โดยปรับลดลง -23.1% YoY เป็น 718,598 คัน

+ USA: Retail Sales เดือน ก.ย. แข็งแกร่งและดีเกินคาด โดยปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง +0.7% MoM (Vs คาด -0.2% MoM และเดือน ส.ค. +0.9% MoM)

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: PTT BANPU DOHOME

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: BROOK AS JTS

Derivatives: ถือ Long S50Z21 ที่เปิดไว้ รอทากำไรตามเป้า (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)