Rebound - Preview Banking (20 ตุลาคม 2564)
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดประมาณ -17 จุด จากแรงขายในหุ้น Big Cap. ในกลุ่มพลังงาน ขนส่ง และธนาคาร นำโดย AOT -1.49%, PTT -1.25%, SCC -2.24%
สาเหตุจากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ในการขับเคลื่อนดัชนีหลังจากในช่วงที่ผ่านมาเห็นยอดขายสุทธิในหุ้น จากนักลงทุนสถาบัน อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,630.39 จุด -13.53 จุด -0.82% มูลค่าการซื้อขาย 96,547 ลบ. ต่างชาติ -1,591.57 ลบ. TFEX -14,667 สัญญา ตราสารหนี้ -317.15 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 198.70 จุด +0.56% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และกลับมายืนเหนือระดับ 4,500 จุดได้อีกครั้ง โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มเทคโนโลยี และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนซึ่งรวมถึงบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ +0.6% ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้ปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในประเทศจีนท่าให้ความต้องการใช้พลังงานในประเทศเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันนลท.จับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้
+ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ระบุว่า ผลการศึกษาพบว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์มีประสิทธิภาพ 93% ในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยโควิด-19 วัย 12-18 ปี ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
+คาดสหรัฐอนุมัติฉีดวัคซีนไขว้สัปดาห์นี้-ภูมิคุ้มกันสูงกว่า 19 เท่า
+ กทม. พร้อมเปิด Bangkok Sandbox คาดผู้รับวัคซีน 2 เข็ม ครบ 80% สิ้นต.ค.
+ ครม. มีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 37,521.69 ลบ. สำหรับโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs ของกรมการจัดหางาน ครอบคลุมเป้าหมายนายจ้างในธุรกิจ SMEs จำนวน 394,621 แห่ง
+ครม.อนุมัติเพิ่มเงิน'คนละครึ่ง'เฟส 3 อีกรายละ 1.5 พันบาท มีกำหนดโอนให้ต้นเดือนพ.ย.
+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศวันนี้ต่ำกว่าหมื่นราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,918ราย มีผู้เสียชีวิต 79 ราย รักษาหาย 10,878 ราย
ปัจจัยลบ
- สหรัฐจะไม่เข้าร่วมการเจรจาประเด็นอัฟกานิสถานที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพในสัปดาห์นี้
- หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า รัฐทางเหนือบางแห่งของสหรัฐเริ่มพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น สร้างความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดซ้อน (Twindemic) ของโรคไข้หวัดใหญ่และโรคโควิด-19
- แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) หั่นคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายเดือนเนื่องจากธนาคารกลางออกนโยบายช่วยเหลือล่าช้า หลังเกิดวิกฤติพลังงานที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีน
- สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 1.6% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 1.555 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. สวนทางนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.620 ล้านยูนิต
- IMF คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการขยายตัว 1.0% และ 4.5% ในปีนี้และปีหน้าตามลำดับ ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 2.6% และ 5.7%
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ระยะสั้น หลังปรับตัวลงวานนี้ โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม Reopening หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศรายใหม่ลดลงต่ำกว่าระดับ 9 พันรายต่อวัน นักลงทุนยังคงติดตามการประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1620-1,640 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นเป็นบวกต่อ : TOP SPRC ESSO PTTGC
• ครม.ไฟเขียวจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติม 6 แห่ง : ROJNA WHA EGCO
หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN, CRC และ MBK หุ้นกลุ่มร้านอาหาร AU, M และ ZEN หุ้นกลุ่มค้าปลีก CPALL BJC MAKRO
หุ้นรายงานพิเศษ
•ในช่วง 3Q64 ผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มธนาคารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY จากการตั้งสำรองฯลดลง แต่ลดลง QoQ เพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการ lockdown ทำให้ยอดรวมการปล่อยสินเชื่อชะลอตัว
•NPL มีแนวโน้มทรงตัว QoQ หรือเพิ่มขึ้นจากการยืดระยะเวลาพักชำระหนี้
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวในปีหน้าหลังเปิดเมือง ขณะที่ภาพรวมระยะสั้นใน 4Q64 ขยับดีขึ้น QoQ เราให้น้าหนัก "Neutral" Top Pick : KBANK SCB BBL TISCO
หุ้นมีข่าว
(+) WHA ( ฺBloomberg Consensus 3.83 บาท) รับทรัพย์ก้อนโต บุ๊กขายสินทรัพย์เข้ากองทุน เข้าไฮซีซันดันไตรมาส 4/2564 ผลงานโตก้าวกระโดด แววยอดขายที่ดินเกินเป้า 725 ไร่ ชี้นักลงทุนต่างชาติ มองหาฐานการลงทุนแห่งใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยงและหันมาลงทุนในไทยมากขึ้น ขณะที่เปิดประเทศหนุน ด้านโบรกคาดยอดขายที่ดินจะมากขึ้นในไตรมาส 4/2564 และปีหน้าจากบริษัทมีลูกค้ากว่า 2,000 ไร่ ที่อยู่ระหว่างเจรจา (ที่มา ทันหุ้น)
(+) JR ( ฺBloomberg Consensus - บาท) บริษัทชี้ภาพรวมการลงทุนภาครัฐ-เอกชนเริ่มกลับมาลงทุนและเปิดประมูลงานมากขึ้น จ่อชิงงานระบบไฟฟ้าเพิ่มมูลค่ารวมประมาณ 800 ล้านบาท อัพ Backlog เพิ่มจากเดิม 5.4 พันล้านบาท กินยาวถึงปี 2566 ส่วนดีลร่วม EA ตั้งสถานีชาร์จขนาดใหญ่ คาดชัดเจนเดือนหน้า บิ๊ก "จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ" คอนเฟิร์มปีนี้รายได้ชน 2.4 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) VCOM ( ฺBloomberg Consensus 6.00 บาท) ขายใบอนุญาตบริการให้ผู้ประกอบการค้าปลีกในมาเลเซีย มูลค่า 100 ล้านบาท บุ๊กเงินเข้าพอร์ตทันทีในไตรมาส 3/2564 คาดหนุนผลงานโตเด่น ด้านแม่ทัพหญิง "ทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต" กางแผนงานลุยเซอร์วิส ปั๊มมาร์จิ้น ส่องทิศทางบริษัทในเครือสดใส มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 2.29 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) RT ( ฺBloomberg Consensus 2.10 บาท) เตรียมเซ็นสัญญางานอุโมงค์ในกรุงเทพฯ ราว 2-3 งานภายในปี 2564 ดัน Backlog สิ้นปี 2564 แตะ 7,000 ล้านบาท พร้อมประเมินแนวโน้มไตรมาส 4/2564 ผลงานเริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการคลายล็อกดาวน์ และคาดมีปริมาณงานใหม่ๆ ทยอยเข้าเพิ่มขึ้น หวังการเปิดประเทศหนุนให้มีแรงงานต่างชาติกลับเข้ามาในระบบ พร้อมเร่งเครื่องประมูลงานต่างประเทศเติมพอร์ต (ที่มา ทันหุ้น)