เจาะกลยุทธ์ “แก้วสตาร์บัคส์” มีจุดเด่นอะไรที่ดึงดูดใจสาวกเงือกเขียว?

เจาะกลยุทธ์ “แก้วสตาร์บัคส์” มีจุดเด่นอะไรที่ดึงดูดใจสาวกเงือกเขียว?

เมื่อแคมเปญ "แก้วสตาร์บัคส์" แจกฟรี (ต้องซื้อเครื่องดื่ม) ได้รับผลตอบรับจากสาวกเงือกเขียวอย่างล้นหลาม จนเป็นกระแสมาแรงในวันนี้ ชวนไขข้อสงสัยว่า Starbucks ใช้กลยุทธ์อะไรที่สามารถดึงดูดนักสะสมได้อยู่หมัด!

วันนี้ (25 ต.ค. 64) Starbucks เปิดตัวแก้ว Reusable cup แบบลิมิเต็ดอิดิชั่น พร้อมแจกฟรี! เมื่อสั่งเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นโปรเจคพิเศษของสตาร์บัคส์ ที่ชูประเด็นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่า ร้านสตาร์บัคส์สาขาต่างๆ  มีลูกค้าต่อแถวซื้อเครื่องดื่มที่แจกแก้วรุ่นนี้กันอย่างล้นหลาม

หลายคนอาจสงสัย ทำไมแก้วกาแฟ “Starbucks” ถึงทำให้นักสะสมไม่อยากพลาดในทุกๆ คอลเล็คชั่น แล้วมี “นวัตกรรม” อะไรที่ทำให้ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่อยากได้มาครอบครอง

แม้ธุรกิจกาแฟแบรนด์ Starbucks จะทำรายได้จากการขายกาแฟเป็นหลักได้ดี (ประมาณปีละแสนล้านบาท) แต่อีกหนึ่งช่องทางในการทำรายได้ดีไม่แพ้กัน ก็คือ การรุกตลาด “ของสะสม อย่างแก้วน้ำ ตุ๊กตา สมุด เป็นต้น

น่าสนใจว่าสตาร์บัคส์ใช้กลยุทธ์การตลาดอย่างไร ในการดันให้แคมเปญในลักษณะนี้สามารถต่อยอดให้มีรายได้เพิ่มขึ้นได้อีกทาง “กรุงเทพธุรกิจ” สรุปมาให้รู้กันดังนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

  • ทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์อยู่กับลูกค้าตลอดเวลา

ในหนึ่งวันลูกค้าจะต้องดื่มเครื่องดื่มบนภาชนะที่หลากหลาย ตามความเหมาะสมของมื้ออาหาร เช่น เช้าหากดื่มกาแฟร้อนต้องใช้แก้วหรือถ้วยกาแฟทรงเตี้ย เมื่อไปทำงานที่ออฟฟิศก็อาจจะดื่มเครื่องดื่มเย็นโดยใช้แก้วพลาสติกทรงสูง เมื่อเลิกงานไปออกกำลังกายก็อาจจะใช้กระติกในการดื่มน้ำ นั่นทำให้กลุ่มผู้บริโภคมีความต้องการแก้วในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น

  • สะสมแต้ม เป็นแรงจูงใจ

นอกจากการซื้อกาแฟปกติจะมีสะสมอยู่แล้ว แต่ช่วงหลังๆ มานี้ สตาร์บัคส์มักจะออกแคมเปญให้การสนับสนุนเรื่องการรักษ์โลกเพิ่มมากขึ้น โดยหากใครพกแก้วมาซื้อเครื่องดื่มเอง ก็จะได้ทั้งแต้มสะสมแถมยังได้ลดราคาอีกด้วย เป็นการทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างอัตโนมัติ

เจาะกลยุทธ์ “แก้วสตาร์บัคส์” มีจุดเด่นอะไรที่ดึงดูดใจสาวกเงือกเขียว?

  • การโคแบรนด์ดิ้ง/สร้างลิมิเต็ดคอลเล็กชั่น

    ณ วันนี้แบรนด์หลายแบรนด์ทนิยมทำการตลาดแบบโคแบรนด์ดิ้ง (จับมือกับแบรนด์คู่ค้า) เพื่อเรียกความสนใจลูกค้าให้มากขึ้น เช่น แบรนด์สปอร์ต Starbucks x  FILA , แบรนด์ศิลปินเกาหลีมีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Starbucks x  Blackpink , แบรนด์ยีนส์อย่าง Starbucks x DIESEL , เครื่องดื่มโคคาโคล่า Starbucks x PepsiCo เป็นต้น

    โดยคอลเล็กชั่นเหล่านี้สร้างฐาน “แฟนคลับตัวยง” ในการสะสมคอลเล็กชั่นแก้วรูปแบบต่างๆ โดยทำให้เกิดคอมมูนิตี้ของนักสะสมบนโซเชียลมีเดียอีกด้วย

เจาะกลยุทธ์ “แก้วสตาร์บัคส์” มีจุดเด่นอะไรที่ดึงดูดใจสาวกเงือกเขียว?

  • การตลาดเกาะเทรนด์ “ความยั่งยืน”

ก่อนหน้านี้สตาร์บัคส์มีการขายเครื่องดื่มโดยใช้แก้วกระดาษกับแก้วพลาสติกเป็นหลัก แต่พอเทรนด์รักษ์โลกกลายเป็นกระแสในยุคนี้ ทางแบรนด์จึงมีการนำไอเดียรักษ์โลกมาใช้ในแคมเปญสนับสนุนการขาย อย่างเช่นการนำเสนอ “แก้วที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Reusable)” ซึ่งเป็นแคมเปญล่าสุด เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีส่วนร่วมในการรณรงค์ เพื่อลดปริมาณขยะให้โลกใบนี้

  • การตลาดชูนวัตกรรมแก้วเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ

เมื่อช่วงปลายปี 2563 สตาร์บัคส์ได้มีการออกแก้วคอลเล็กชั่นที่ วัสดุทำให้ “แก้วสามารถเปลี่ยนสีได้ตามอุณหภูมิ” ร้อนและเย็น ซึ่งเป็นความแปลกใหม่ที่ทำให้ผู้กินกาแฟสตารบัคส์ตัวยงเกิดความอยากได้ เพราะนอกจากสีสันสวยงามแล้วนวัตกรรมยังมีความเจ๋งอีก น่าเอาไปใช้และอวดผู้คน

  • แพ็คเกจจิ้งคุณภาพดี

แก้วสตาร์บัคส์มีด้วยกันหลายรูปแบบ แต่ละแบบใช้วัสดุที่แตกต่างกัน เช่น มีการพิมพ์ลาย การฉลุ ผลิตด้วยสเตนเลส สลักลายไม้ ลายเงิน ลายทอง หรือการเพนท์ภาพในลักษณะงานฝีมือ เหล่านี้ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแก้วใบนั้นมีคุณค่า และต้องรีบซื้อเพราะสินค้าอาจหมดชั้นวางของได้ทุกเมื่อ

เจาะกลยุทธ์ “แก้วสตาร์บัคส์” มีจุดเด่นอะไรที่ดึงดูดใจสาวกเงือกเขียว?

อ้างอิง: Forbes, TODAY, MarketingOops