บีโอไอ หนุนผู้ผลิตชิ้นส่วน SMEs ไทยเชื่อมต่างประเทศ ดึงร่วมงาน M-TECH Osaka
บีโอไอดึงผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่เป็น SMEs เข้าร่วมงานแสดงเทคโนโลยีและชิ้นส่วนเครื่องจักรกล M-Tech Osaka ที่ประเทศญี่ปุ่น หวังต่อยอดให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทย เน้นอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนที่มีศักยภาพสู่ตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะเกิดมูลค่าซื้อขายประมาณ 4,525 ล้านบาท
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนนครโอซากานำผู้ประกอบการ SMEs ไทย เข้าร่วมงานแสดงสินค้า M-Tech Osaka 2021 ณ ศูนย์แสดงสินค้า INTEX Osaka ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีและชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและเครื่องจักรกลที่สำคัญงานหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 6 – 8 ตุลาคม 2564 เพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทยในการเข้าสู่ห่วงโซ่การผลิตในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในช่วงที่อุตสาหกรรมการผลิตของโลกได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อกระจายความเสี่ยงโดยการจัดซื้อชิ้นส่วนจากหลายแหล่ง แทนแห่งเดียวดั่งในอดีต
นอกจากนี้ญี่ปุ่น นับเป็นคู่ค้าหลักด้านชิ้นส่วนอุตสาหกรรมของไทย ดังนั้นการเข้าร่วมงาน M-Tech จึงมีบทบาทสำคัญในการแสดงศักยภาพและความคล่องตัวในการผลิตของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนของไทย โดยเฉพาะ SMEs
งาน M-TECH Osaka หรือ 24th Mechanical Components & Materials Technology Expo Osaka เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและชิ้นส่วนเครื่องจักรกลทุกประเภทเช่นMechanical part, Bearings, Fasteners, Motor, Compressor, Metal and plastic processing technology มีผู้เข้าร่วมออกบูธจำนวน 506 บริษัทและผู้เข้าเยี่ยมชมงานทั้งสิ้น 16,906 ราย โดยส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมยานยนต์อากาศยานอิเล็กทรอนิกส์หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติและการผลิตเครื่องจักร
โดยในปีนี้รูปแบบการแสดงสินค้าเป็นการผสมผสานการออกบูธในสถานที่จริงร่วมกับแบบออนไลน์ (Onsite and Virtual)หรือเป็นแบบ Hybrid เนื่องจากในญี่ปุ่นเองก็อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศไทย
สำนักงานได้จัดพื้นที่แสดงชิ้นส่วนภายใต้ Thailand Pavilion โดยมีผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่เป็น SMEs เข้าร่วมออกบูธทั้งสิ้น 10 บริษัท และเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เช่นยานยนต์ เครื่องจักรเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์เหล็กและโลหะ รวมทั้งเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
โดยบริษัทที่ให้ความสนใจผู้ผลิตชิ้นส่วนจากไทย ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทญี่ปุ่นที่มีบริษัทลูกหรือสาขาอยู่ในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมที่สำคัญของไทยได้แก่ Panasonic Corporation, Kawasaki Heavy Industries, Kobelco, Mitsubishi Heavy Industries, Toyota Tsusho,Mizuho, Fujitec เป็นต้นสำนักงานคาดว่าการเข้าร่วมงานครั้งนี้จะก่อให้เกิดธุรกิจต่อเนื่องในการซื้อขายชิ้นส่วนในอนาคตจำนวน 163 คู่มูลค่าการซื้อขายประมาณ 4,525 ล้านบาท