สรท.คาดการณ์การส่งออกไทยปีหน้าขยายตัว 5 %
สรท.มั่นใจโค้งสุดท้ายส่งออกไทยปี 64 โต 12 % ขณะที่ปี 65 คาดขยายตัว 5 % จับตาปัจจัยเสี่ยงส่งออกปีนี้ทั้งค่าระวางเรือที่แพง วัตถุดิบขาดแคลน
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนก.ย.มีมูลค่า 23,036 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 17.1% เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกขยายตัว 14.8% ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 22,426.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 30.3% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทยในเดือนก.ย. 2564 เกินดุล 609.8 ล้านดอลลาร์ ส่วนภาพรวมการค้าส่งออก 9เดือนตั้งแต่ ม.ค. – ก.ย.ปี 2564 ไทยส่งออกรวมมูลค่า 199,997.7 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 15.5% เมื่อหักทองคำ น้ำมัน และอาวุธยุทธปัจจัย พบว่าการส่งออกในช่วง 9 เดือนนี้ขยายตัว 20.4% ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 197,980.9 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 30.9% ส่งผลให้ดุลการค้าของประเทศไทย เกินดุล 2,016.8 ล้านดอลลาร์
"สรท. คาดการณ์การส่งออกไทยในปี 2564 เติบโต 12% และคาดการณ์ปี 2565 เติบโต 5% "นายชัยชาญ กล่าว
ทั้งนี้ปัจจัยปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญในปี 2564 ได้แก่ 1. ค่าระวางเรือยังคงทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม อาทิ Peak Season Surcharge (PSS) ส่งผลต่อภาระต้นทุนการขนส่งสินค้าที่ผู้ส่งออกต้องจ่ายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และปัญหา Space and Container allocation ไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดตู้สินค้าตกค้างไม่สามารถส่งสินค้าได้ทันตามกำหนด
2.ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและราคาผันผวน อาทิ ชิป, เหล็ก, น้ำมัน ส่งผลให้ภาคการผลิตเพื่อส่งออก ยังคงประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลรุนแรงขึ้นในไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้การส่งออกไม่สามารถเติบโตได้ตามที่คาดการณ์
3. สถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในประเทศยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อในระดับสูง ขณะที่หลายประเทศเริ่มกลับมาล็อคดาวน์จากการกลับมาระบาดของกลุ่มคลัสเตอร์ เช่น จีน สิงคโปร์ อังกฤษ รัสเชีย เป็นต้น ซึ่งแม้จำนวนผู้ติดเชื้อโดยรวมภายในประเทศไทยจะลดลงแต่ยังคงทรงตัวในระดับสูง ภาคโรงงานอุตสาหกรรมต้องปรับเปลี่ยนเวลาในการทำงานเพื่อลดจำนวนพนักงานเข้าทำงานส่งผลกระทบต่อไลน์การผลิตเนื่องคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นสวนทางกับจำนวนพนักงานที่เข้าไลน์ผลิตได้บางส่วนภาครัฐต้องเร่งกระจายวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายวัคซีนสองเข็ม 50 ล้านคน ภายในสิ้นปี รวมถึงแรงงานในภาคการผลิตขาดแคลนต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนการจ้างงานปรับตัวสูงขึ้น กระทบการผลิตเพื่อส่งออกที่กำลังฟื้นตัวจากโควิด
4. กระบวนการทำงานภาครัฐยังไม่สอดคล้องกับ New Normal อาทิ ความล่าช้าในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ผู้ส่งออก (Vat Refund) ซึ่งส่งผลกระทบต่อเงินทุนหมุนเวียนของผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย มีข้อเสนอแนะที่สำคัญประกอบด้วย 1. ด้านการตลาด อาทิ จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้แก่โครงการ SMEs Pro-active เพื่อเพิ่มจำนวนครั้งการจัดงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ (Virtual / Onsite exhibition 2022) ให้มากขึ้น 2. ด้านต้นทุนการประกอบธุรกิจ เช่น ขยายระยะเวลาเงินช่วยเหลือลูกจ้างให้กับสถานประกอบการระดับ SMEs ทั้ง เงินช่วยเหลือ 3,000 บาทต่อคน เพื่อคงสถานการจ้างงาน ลดต้นทุนพลังงานในประเทศ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ เร่งปรับปรุงขั้นตอนการทำงานภาครัฐให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์และใช้ได้จริง