เทียบฟอร์ม‘หุ้นดิจิทัลคอนซัล’มาแรงรับกระแสทรานส์ฟอร์ม
ปัจจุบันเทคโนโลยีกำลังเข้ามาเปลี่ยนโลก ทำให้ทุกอย่างนั้นง่ายขึ้น ช่วยอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิต รับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล โดยจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาในทุกธุรกิจทุกอุตสาหกรรม
หลายบริษัทกำลังเร่งเดินหน้าทรานส์ฟอร์ม ฝ่ากระแส “เทคโนโลยี ดิสรัปชั่น” ปรับรูปแบบการทำงาน การให้บริการ เข้าสู่โลกยุคดิจิทัล เพื่อยกระดับประสิทธิภาพองค์กร และตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่กำลังร้อนระอุ
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เรียกเสียงฮือฮาอย่างมากคือ การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ ด้วยการจัดตั้ง “ยานแม่” ลำใหม่ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX เพื่อเดินหน้าเปลี่ยนผ่านจากธุรกิจธนาคารไปสู่ “เทคคอมพานี” อย่างเต็มรูปแบบ
การทรานส์ฟอร์มของ SCBX สร้างแรงกระเพื่อมไปทุกวงการ และยิ่งกระตุ้นให้ภาคธุรกิจต่างๆ ตื่นตัวมากขึ้นในการปรับโครงสร้างองค์กร ยกระดับธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งหากมองอีกมุมก็จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญ สำหรับกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี (Digital and Technology Consulting) เชื่อว่าลูกค้าจะหลั่งไหลเข้ามาให้ช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กร
แม้งานด้านที่ปรึกษาดิจิทัลจะมียักษ์ใหญ่จากต่างประเทศหลายบริษัทเข้ามานำร่องทำตลาดในประเทศไทย แต่บริษัทสัญชาติไทยเองก็มีอยู่ไม่น้อย แถมผลงานโดดเด่น มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งปัจจุบันมีหลายบริษัทเข้ามาโลดแล่นในตลาดหุ้นเป็นที่เรียบร้อย
นำโดยบริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG หนึ่งในบริษัทที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 30 ปี ทั้งการให้คำปรึกษาและออกแบบติดตั้งระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์จากทาง Salesforce การติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และเป็นตัวแทนจำหน่ายระบบซอฟต์แวร์จากทาง Oracle ฯลฯ
โดย IIG ประเดิมเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2563 ซึ่งไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง เปิดซื้อขายที่ 19.80 บาท เหนือจอง 200% จากราคาไอพีโอ 6.60 บาท
หลังจากนั้นราคาพุ่งไม่หยุด เดินหน้าทำออลไทม์ไฮที่ 42.25 บาท ขณะที่ล่าสุด (5 พ.ย.) มาปิดที่ 41 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 521% จากราคาไอพีโอ สอดรับกลับผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องสวนวิกฤติโควิด โดยบริษัทตั้งเป้าว่าภายในปี 2565 จะมีรายได้แตะ 1 พันล้านบาท และขยับเป็น 2 พันล้านบาทในปี 2567
ตามด้วยบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยีครบวงจร ทั้งการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ และการจัดการ การบริหารโครงการเชิงยุทธศาสตร์ การพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ข้อมูลชั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์ และการจัดหาและบริหารบุคคลากรชั่วคราว
BBIK เข้าเทรดในตลาดเอ็ม เอ ไอ เมื่อ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา และแน่นอนว่าไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน เปิดมา 36.75 บาท เพิ่มขึ้น 18.75 บาท หรือ 104.17% จากราคาจอง 18 บาท และขณะนี้ทำสถิติออลไทม์ไฮไว้ที่ 46.75 บาท ล่าสุดปิดที่ 41 บาท หรือ เพิ่มขึ้นมาแล้ว 127% จากราคาไอพีโอ
ส่วนวันนี้ (8 พ.ย.) จะมีหุ้นน้องใหม่ป้ายแดงตัวล่าสุด บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 ลงสนามซื้อขายวันแรกในตลาดเอ็ม เอ ไอ ที่ราคาไอพีโอหุ้นละ 10 บาท โดยมาพร้อมกับประสบการณ์มากกว่า 12 ปี ด้วยบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ให้คำปรึกษาด้าน Digital Strategy การวางแผนพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การเลือกใช้ซอฟต์แวร์และพัฒนาระบบ
รวมทั้งให้บริการจัดเก็บบริหารข้อมูลขนาดใหญ่และนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนช่วยดูแลแก้ปัญหาการใช้งานระบบ และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ของบริษัทชั้นนำ เช่น Salesforce, Google, MuleSoft, และ Tableau
ดูแล้วโอกาสที่จะเปิดเหนือจองตามรอยรุ่นพี่คงไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังไปเข้าตานักลงทุนวีไอขาใหญ่ “เซียนฮง” สถาพร งามเรืองพงศ์ ที่ประกาศขอซื้อบิ๊กล็อตตั้งแต่วันแรกที่เข้าตลาดกันเลยทีเดียว
เห็นแบบนี้ต้องบอกเลยว่า “หุ้นกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ มาถูกที่ ถูกเวลา รับกระแสดิจิทัล ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตอีกมากจากฐานที่ยังไม่สูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายในธุรกิจค่อนข้างคงที่ ทำให้มาร์จิ้นดี กำไรงาม
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์