STGT ไตรมาส 3/64 กำไร 4,532.8 ล้านบาท ประกาศปันผล 1.25 บาทต่อหุ้น

บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เปิดเผยว่า ด้วยความต้องการในการบริโภคถุงมือยางที่แข็งแกร่ง และเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคทั่วโลกจากการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ประกอบกับการกลับมาเดินเครื่องจักรอย่างเต็มที่ของโรงงานที่ จ.ตรัง และ จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้ปริมาณการขายในไตรมาส 3 ปี 2564 ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7,076 ล้านชิ้น ซึ่งสมารถชดเชยการลดลงของราคาขายเฉลี่ยได้บางส่วน

ทำให้รายได้ของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2564 อยู่ที่ 10,864.0 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.6 จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่อ่อนตัวลงร้อยละ 16.2 จากไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิที่ 4,532.8 ล้านบาท คิดเป็นกำไรที่ 1.58 บาทต่อหุ้น โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 41.7 พร้อมกันนี้ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตรา 1.25 บาทต่อหุ้น ที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 19-22 พ.ย.2564 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 ธ.ค.

กลยุทธ์การดำเนินการนับต่อจากนี้ 1) บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายกำลังการผลิตติดตั้ง โดยภายในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมีกำลังการผลิตที่ 50,000 ล้านชิ้นและภายในปี 2567 เป็น 80,000 ล้านชิ้น ตามแผนที่ได้วางไว้ 2) ความยืดหยุ่นของสายการผลิตระหว่างผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ที่สามารถปรับเปลี่ยนไต้ตามความต้องการของลูกค้า ทำให้บริษัทฯ มี Product Mix ที่ยืดหยุ่น และแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรม

3) การขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าไว้ที่มากกว่า 190 ประเทศ ภายใน 3 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันที่ 170 ประเทศทั่วโลก 4) การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต จากปัจจุบันที่ใช้พนักงาน 2.17 คนในการผลิตถุงมือ 1,000,000 ชิ้น บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าในปี 2567 และ 2569 จะใช้พนักงานลดลงเป็น 1.65 และ 1.0 คนในการผลิตถุงมือ 1,000,000 ขึ้น ตามลำดับ

และ 5) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อความเป็นผู้นำในถุงมือยางธรรมชาติของโลกจากการเข้าถึงแหล่งวัตถุติบน้ำยางข้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของวัตถุติบและผลิตภัณฑ์

โดยล่าสุดเมื่อเตือน ก.ย.ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ "CWCG" (Clean World Clean Glove) หรือ Non-Detectable Protein Gloves ได้ผ่านการรับรองจากสถาบันวิจัยในหลากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป เป็นต้น