MSCI ลดน้ำหนักไทยเล็กน้อย แต่จิตวิทยาเก็งกำไรโดยรวมยังเป็นบวก

MSCI ลดน้ำหนักไทยเล็กน้อย แต่จิตวิทยาเก็งกำไรโดยรวมยังเป็นบวก

MSCI ปรับรอบนี้ไม่มีหุ้นใหญ่ ไทยถูกลดน้ำหนักเล็กน้อย การปรับหุ้นตามดัชนี MSCI รอบ 11 พ.ย. 64 ไม่มีหุ้นใหญ่เข้า/ออกจากดัชนี MSCI Thailand

อย่างไรก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงหุ้นใน MSCI Global Small Cap ที่ BEC, TIPH และ TIDLOR ถูกนำเข้าคำนวณ ขณะที่ TKN ถูกถอดออกจากดัชนี ขณะที่น้ำหนักการลงทุน แม้ตลาดหุ้นจีนกับฮ่องกงปรับลดลงเยอะจะทำให้มีการเพิ่มน้ำหนักหุ้นในตลาดอื่นอย่าง อินเดีย เกาหลีไต้ อินเดียและฟิลิปปินส์ แต่ยังคงเห็นการลดน้ำหนักไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย โดยหุ้นไทยถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนลงเล็กน้อย 0.02% ซึ่งผิดจากที่เราคาดว่าน่าจะได้รับการปรับน้ำหนักการลงทุนขึ้น
 

ธปท.ผ่อนเกณฑ์จ่ายเงินผันผล หลังจากมีการกำหนดเกณฑ์ควบคุมการจ่ายเงินผันผลและซื้อหุ้นคืนในช่วงสถานการณ์วิกฤติโควิดที่ผ่านมา ธปท.ได้เริ่มผ่อนเกณฑ์ดังกล่าวเนื่องจากระบบธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองที่สูงถึง 1.55 เท่าของสินเชื่อด้อยคุณภาพ และระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) ที่ 19.9% จึงยกเลิกเกณฑ์ห้ามจ่ายเงินปันผลไม่เกินอัตราที่เคยจ่ายในอดีต แต่ยังคงให้จ่ายไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิปี 64 ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลบวกต่อหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงเมื่อเที่ยบกับกำไรสุทธิอยู่แล้ว อาทิ TCAP, TISCO, KKP, TTB แต่อาจส่งผลบวกต่อ BBL (28%), KBANK (20%), KTB (23%), SCB (29%) แม้เราไม่คาดว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลบวกต่อการจ่ายเงินปันผลอย่างมีนัยสำคัญ แต่ถือว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นบวกต่อจิตวิทยาการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธนาคาร
 

ธีมการลงทุนระยะสั้น 1) พลังงานทดแทนและรถไฟฟ้ารับ COP26 ดีกับ EA, NEX, SUPER 2) กลุ่มโภคภัณฑ์ป้องกันเงินเฟ้อ PTTEP, PTTGC, IVL, TOP 3) ผลตอบแทนพันธบัตรขยับขึ้น ซึ่งบวกกับกลุ่มธนาคารและประกัน อาทิ BBL, KBANK, SCB, BLA, TIPH, THRE (แต่อาจต้องระวังการเคลมประกันโควิด) 4) หุ้นธีมเปิดเมือง CPN, CRC, MINT, CENTEL, ERW, BA 5) เรามองทยอยสะสม สื่อสาร สาธารณูปโภค ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART, GULF, GPSC, EGCO, RATCH, EASTW, WHAUP, TTW 6) ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ได้แก่ SPALI, QH, PSH, ORI, LPN, LH, AP (ตามลำดับ) 7) เก็งกำไรทางเทคนิค EGCO, GPSC, GULF, BGRIM, CBG, PM, SGF, SIS, SYNEX, IT, SVOA, MFEC, SECURE, IRCP, BCH, CHG, BDMS, FORTH, PACO, PLANB, SHR, TR, ETC, BOL

ภาพรวมกลยุทธ์: ผันผวนระยะสั้น แต่ยังลุ้นสัปดาห์นี้ยืน 1,630 จุด เพื่อฟื้นตัวกลับไปเล่นในกรอบบน หรือทดสอบ 1,650-1,660 จุด กลยุทธ์เก็งกำไรรายตัว ในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริโภคในประเทศ //หุ้นแนะนำ: BBL, ADVANC, FSMART*, RS*

แนวรับ: 1,622 / แนวต้าน : 1,635-1,650 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน
 

รฟม.ขายซองสายสีม่วงใต้ ยื่นซอง27ธ.ค.นี้ - รฟม. เปิดประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) 8.2 หมื่นล้านบาท ขายซอง 11 พ.ย.-24 ธ.ค.นี้ กำหนดยื่นข้อเสนอ 27 ธ.ค. 64

THAI – การบินไทยยื่นคลังเร่งสรุปปมสัดส่วนหุ้นเหลือ 8% หลังรัฐบาลไม่สนับสนุนเงินทุน 2.5 หมื่นล้าน ชี้ช่องทางแปลงสินทรัพย์เป็นทุน-ซื้อหุ้นเพิ่มทุน

กลุ่มปาล์มน้ำมัน – แม้ราคาน้ำมันปาล์มดิบทำจุดสูงสุดในช่วงไตรมาส 3/64 แต่ความเปลี่ยนแปลงของราคาน้อยกว่าที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2/64 ทำให้อัตรากำไรลดลง ส่งผลให้กำไรต่ำลง QoQ (คล้ายหุ้นกลุ่มเหล็กที่กำไร peak ก่อนราคาเหล็ก) นักลงทุนควรเพิ่มคความระวังในการเก็งกำไรและตัดขาดทุนแม้ระยะสั้นราคาปาล์มจะยังเป็นบวก

กลุ่มประกันภัย – ผลประกอบการโดยรวมชะลอตัวลงจากผลของการเคลมประกันโควิดที่กระทบแต่ละบริษัทในระดับที่แตกต่างกัน แต่เห็นชัดว่ากระทบหนักมากกับผู้ประกอบการที่รับประกันแบบเจอจ่ายจบ

 

ประเด็นติดตาม: -   15-19 พ.ย. – Virtual conference ผู้นำสหรัฐฯ-จีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)