BAM ผลประกอบการ 3Q64: ดีขึ้นอย่างคงเส้นคงวา
กำไรสุทธิของ BAM ใน 3Q64 อยู่ที่ 576 ล้านบาท (-27% QoQ, +93% YoY) โดยกำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะ BAM บันทึกกำไรก้อนใหญ่ 408 ล้านบาทจากการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกไปใน 2Q64
ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY สะท้อนถึงฐานกำไรที่ต่ำเนื่องจากกิจกรรมการขายสินทรัพย์อยู่ในระดับต่ำใน 3Q63 ทั้งนี้ กำไรสุทธิในงวด 9M64 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (+42% YoY) คิดเป็น 67% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
บริหารจัดการการติดตามเก็บเงินสด และ margin ได้ดี
เนื่องจากบริษัทปรับกลยุทธ์ในปี 2564 มาเน้นการติดตามเก็บเงินสด และ margin ข้อมูลการติดตามเก็บเงินสด และ margin ที่ออกมาจึงสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท ทำให้ BAM สามารถรักษาอัตรากำไรเอาไว้ได้ตลอดสามไตรมาสที่ผ่านมา โดยยอดการติดตามเก็บเงินสดจาก NPA และ NPL อยู่ที่ 3.8พันล้านบาท (-8% QoQ +19% YoY) ใน 3Q64 และ 1.1 หมื่นล้านบาท (+21%) ในงวด 9M64 ในขณะเดียวกัน yield ของกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น 130bps เป็น 10.3% และ margin เพิ่มขึ้น 130bps เป็น 7.1%เนื่องจากยังรักษาต้นทุนทางการเงินเอาไว้เท่าเดิมได้
คาดว่าจะเก็บหนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกใน 4Q64
BAM ได้ปรับแนวทางการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยเน้นขายสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำ ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มปริมาณสินทรัพย์ที่ขายออกไปได้ โดยมี margin ดีขึ้น ทั้งนี้ นอกจากการติดตามเก็บเงินสดและ margin จะดีขึ้นในงวด 9M64 แล้ว เรามองว่าแนวโน้มจะยิ่งดีขึ้นอีกใน 4Q21 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดผู้บริหารตั้งเป้าว่าจะติดตามเก็บเงินสดให้ได้ประมาณ 6 พันล้านบาท
ตั้ง JV แล้วพร้อมเริ่มเปิดดำเนินการ
BAM มีแผนจะปลดล็อกมูลค่าระยะยาวด้วยการตั้ง JV และ holding company ซึ่งการตั้ง JV ร่วมกับธนาคารเพื่อบริหารจัดการ NPL สามารถทำได้ และไม่ถูกจำกัดโดยกฎเกณฑ์ของทางการ ทั้งนี้ JV จะทำให้ BAM สามารถขยายธุรกิจได้โดยใช้โมเดลธุรกิจแบบที่มีสินทรัพย์น้อย (asset light model) ซึ่งจะช่วยให้ BAM ขยายธุรกิจได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องหนี้ และ ยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การที่ไม่ถูกจำกัดโดยกฎเกณฑ์ของทางการทำให้ JV อยู่ในสถานะที่พร้อมจะคว้าโอกาสในการสร้างการเติบโตในอนาคตได้
ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2565F เป็น 25 บาท และ re-rate P/E เป็น 25x
BAM อาศัยความชำนาญในการบริหารจัดการ AMC (สำหรับหนี้เสียที่มีหลักประกัน) ซึ่งทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจได้แบบเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนคู่แข่ง ทั้งนี้จากแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ชัดเจน เราจึงปรับลด discount ในการประเมินมูลค่าหุ้นลง และขยับมาใช้ P/E ใหม่ที่ 25x (จากเดิมที่ 22x) คิดเป็น PEG ที่ 0.75x (จากประมาณการเดิมที่ 0.65x) และยังคงคำแนะนำซื้อ BAM
Risks
ตามตามเก็บเงินสดได้น้อยกว่าแผนที่วางไว้, ซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้ในราคาแพง.