ผ่ากลยุทธ์ดิจิทัล"โลกคู่ขนาน"สยามพิวรรธน์ลั่นมาแน่"VIZ Coins-ฟินเทค"
"สยามพิวรรธน์" วางยุทธศาสตร์ดิจิทัลเชื่อมโลกคู่ขนาน "ออนไลน์-ออฟไลน์" เตรียมขยายศักยภาพสู่ “VIZ Coins-ฟินเทค-Metaverse” ปั้นแพลตฟอร์ม สร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง และเงินซื้อไม่ได้ในทุกที่ทุกเวลาเหนือคู่แข่ง
เมื่อประสบการณ์บนโลกออฟไลน์ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหาและขาดไม่ได้! ธุรกิจเชื่อม “ออนไลน์-ออฟไลน์” อย่างไร้รอยต่อเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนยุคดิจิทัลได้อย่างไร? เป็นหนึ่งในภารกิจและวาระเร่งด่วนของ "สยามพิวรรธน์" ต่อก้าวรุกด้านดิจิทัลเชื่อมโลกคู่ขนาน!
อริยะ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารศูนย์การค้า สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ กล่าวว่า วิกฤติโควิดสร้างปฎิกิริยาเร่งกระแสอีคอมเมิร์ซพุ่งทะยานถึงขีดสุด! จากความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ที่ตอบโจทย์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม หลังจากไม่ได้ออกไปไหนและต้องทำงานที่บ้านมานานเกือบ 2 ปี ลูกค้าต่างตอบรับการกลับมาเปิดให้บริการของศูนย์การค้าเป็นอย่างดี พร้อมใช้ชีวิตอยู่ในโลกคู่ขนาน! ที่ได้หยั่งรากลึกลงในพฤติกรรมและวิถีชีวิต รวมถึงแนวทางธุรกิจของสยามพิวรรธน์
นำสู่การลงทุนและพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับ “คู่ค้า” และมอบประสบการณ์ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะให้แก่ “ลูกค้า” ที่มากกว่าแค่การจับจ่ายออนไลน์ที่ขับเคลื่อนด้วย “ส่วนลด”
"สยามพิวรรธน์ ต้องการเนรมิตประสบการณ์ที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร สอดรับความต้องการของลูกค้าคนสำคัญ รวมทั้งลูกค้าที่มีกำลังใช้จ่ายสูง และกำลังมองหาประสบการณ์ที่ตรงใจมากกว่าที่เคยไป ภายใต้แพลตฟอร์มใหม่ที่เน้นคอนเทนท์น่าสนใจรายวัน พาลูกค้าเปิดโลกไปกับเทรนด์ใหม่ แบรนด์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ กิจกรรมใหม่ตลอดทั้งปี สิทธิประโยชน์และประสบการณ์ที่คัดสรรมาเฉพาะเพื่อลูกค้าแต่ละราย”
แพลตฟอร์มใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวภายใต้กลยุทธ์ “โลกคู่ขนาน” มี 4 องค์ประกอบพื้นฐาน เริ่มจาก
ผนึกร้านค้า คู่ค้า พันธมิตรและแบรนด์ที่หลากหลาย นี่คือ ดีเอ็นเอและหัวใจความสำเร็จที่สามารถดึงดูดลูกค้าที่มีกำลังในการจับจ่าย สร้างความแตกต่างให้สยามพิวรรธน์ ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัว Ultimate Chat & Shop เมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงโควิดระลอก 4 พบว่าลูกค้ามียอดใช้จ่ายออนไลน์สูงกว่ายอดซื้อปกติ 9-10 เท่า
ในอนาคตอันใกล้ สยามพิวรรธน์มีแผนดึงแบรนด์และคู่ค้าระดับพรีเมียมและลักชัวรีเพิ่มในแพลตฟอร์มใหม่
ชูธงสร้างคอมมูนิตี้ที่คัดสรรความพิเศษมาให้โดยเฉพาะ ผ่านการนำเสนอคอนเทนท์มากกว่า 3,000 คอนเทนท์ในแต่ละเดือน ในคอมมูนิตี้ออนไลน์แพลตฟอร์มที่สร้างบนความสนใจของลูกค้า ผสานการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าแบบบูรณาการ (Loyalty Program) เชื่อมออฟไลน์-ออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบ
“เราเชื่อในการสร้างคอนเทนท์ สร้างความผูกพันกับลูกค้าเพื่อให้มาจับจ่ายกับแบรนด์ต่าง ๆ ในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ ไม่ใช่เพราะส่วนลด แต่เป็นเพราะแบรนด์เหล่านี้เป็นแบรนด์โปรด หรือแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจ เช่น ลูกค้าต้องการอะไร เทรนด์ มิกซ์แอนด์แมตช์ หรือการดูแลตัวเองอย่างไร ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เกี่ยวโยงและขึ้นอยู่กับคอมมูนิตี้เป็นสำคัญ”
เชื่อมประสบการณ์โลกคู่ขนาน ลูกค้าที่มีกำลังย่อมมองหาประสบการณ์ที่ถูกคัดสรรมาแล้วอย่างพิถีพิถัน ดังนั้น การเข้าไปอยู่ในใจลูกค้ากลุ่มนี้จึงไม่ใช่การมีสินค้านับหมื่นรายการ แต่ต้องมีสินค้าที่พวกเขาต้องการ! ซึ่งอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการสื่อสารและนำเสนอสินค้าที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ และอาศัยนวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอคอนเทนท์และสินค้าเฉพาะบุคคล
แพลตฟอร์มที่กำลังจะเปิดตัวนี้ ถูกดีไซน์มาเพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นพบแบรนด์ สินค้า และประสบการณ์ใหม่ได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งเชื่อมต่อโลกออฟไลน์สู่โลกออนไลน์มาไว้ในมือ ทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แตกต่างและเงินซื้อไม่ได้ในทุกที่ทุกเวลา
ประการสำคัญ นี่คือการเตรียมขยายศักยภาพของการเชื่อมโลกจริงและโลกเสมือนจริงด้วย “Metaverse” ในอนาคต
องค์ประกอบสุดท้าย นำเสนอระบบรีวอร์ดที่ไร้ขีดจำกัด ของ Loyalty Program พร้อมเริ่มใช้ “VIZ Coins” เพื่อยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้า ณ ร้านค้าที่เข้าร่วมรายการภายในศูนย์การค้า บนช่องทางออนไลน์ และเป็นทางเลือกให้ลูกค้าเปลี่ยนคะแนนในบัตรเครดิตเพื่อเพลิดเพลินไปกับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม
อักเซล วินเทอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ ร่วมกับพันธมิตรนำระดับโลก “ZIPMEX” ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดให้ลูกค้าใช้ ZIPMEX Token เป็นเครื่องมือในการแลกเป็นสินค้าหรือบริการที่จับต้องและสัมผัสได้จริง การร่วมมือกับ KX เปิดตัว Coral แพลตฟอร์ม NFT Marketplace ที่จะร่วมกันสร้างนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดการพัฒนาต่อยอด ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม ไลฟ์สไตล์ และสุดยอดประสบการณ์ให้ลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ โดยใช้พื้นที่ของสยามพารากอน และไอคอนสยาม จัดทำ NFT Innovation Digital Wall ให้ผู้ที่มาเยือนศูนย์การค้าได้เข้าชม NFT Art อย่างใกล้ชิด
การจับมือกับ Perx Technologies ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ร่วมกันพัฒนาสร้างสรรค์ประสบการณ์แปลกใหม่บนโลกดิจิทัลที่จะขยายฐานลูกค้าของกลุ่มสยามพิวรรธน์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงทั้งคนไทยและต่างชาติให้กว้างไกลทั่วโลก ผ่านโกลบอลพาร์ทเนอร์ ซึ่งลูกค้าจะได้สิทธิประโยชน์เหนือระดับภายใต้ Loyalty Program ที่ Personalized เป็นเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ พร้อมเสริมความสนุกเร้าใจกับการจับจ่ายใช้สอยผ่านเกมมิฟิเคชัน (Gamification) ที่จะทำให้ทุกคนได้โลดแล่นไปกับประสบการณ์ที่แตกต่างและเงินซื้อไม่ได้
"เรายังเตรียมประกาศเปิดตัวพันธมิตรใหม่ พร้อมทัพคนดิจิทัลที่จะมาร่วมสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง และน่าตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนธุรกิจในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ปัจจัยสำคัญ คือการสร้างทัพทีมงานที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
"ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับคุณอริยะ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญระดับโลกหลายบริษัท ที่มาช่วยสยามพิวรรธน์ขับเคลื่อนแผนงานดิจิทัล และนวัตกรรม"
สยามพิวรรธน์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำทีมในช่วงเปลี่ยนผ่านของธุรกิจ ได้แสดงศักยภาพ และท้าทายความสามารถของตนเองในแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ผ่านการทำงานในรูปแบบโครงการธุรกิจเชิงสร้างสรรค์ ที่ผู้ร่วมงานสามารถบริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว และตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว (Self-Directed Team) พร้อมทั้งได้เรียนรู้และลงมือทำงานที่แปลกใหม่ในทุก ๆ วัน ได้ใกล้ชิดกับพันธมิตรองค์กรใหญ่ แบรนด์ดังระดับโลก และผู้เชี่ยวชาญจากทุกสาขา เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ และมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับลูกค้าจากทั่วทุกมุมโลก
การได้เข้าร่วมงานกับสยามพิวรรธน์จะเป็นเวทีให้คนรุ่นใหม่ที่อยากเติบโตแบบก้าวกระโดด ได้ทำในสิ่งที่พิเศษแบบครั้งหนึ่งในชีวิต และร่วมสร้างผลงานที่จะเป็น Talk of the world พร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างไปจากที่อื่น
ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวของโลกที่ผู้คนกำลังปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ "สยามพิวรรธน์" เชื่อมั่นว่าคุณค่าและประสบการณ์บนโลกออฟไลน์ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนมองหาและขาดไม่ได้ การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในรูปแบบ สยามพิวรรธน์ จึงเป็นการเชื่อมโลกออฟไลน์สู่ออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนอย่างครบวงจร ทั้งในเรื่องความสะดวกสบายและการสร้างคุณค่า ซึ่งจะช่วยเติมเต็มชีวิตยุคใหม่แห่งโลกอนาคตได้อย่างแท้จริง เตรียมพบกับการเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ต้นเดือนธันวาคมนี้ ที่ชูธงด้านการสร้างคอมมูนิตี้ผสานการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าแบบบูรณาการ (Loyalty Program) ด้านโซเชียลและอีคอมเมิร์ซ (Social and E-Commerce) และต่อยอดสู่ฟินเทคในอนาคต
“เป้าหมายหลักของสยามพิวรรธน์คือการเป็น ผู้นำตลาดในการบุกเบิกโมเดลธุรกิจใหม่ สร้าง ระบบนิเวศดิจิทัล เพื่อขยายตลาดให้เข้าถึงลูกค้าใหม่ที่มีความหลากหลาย เร่งการเติบโตแบบก้าวกระโดด และครองความเป็นหนึ่งในใจลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ"