กลยุทธ์การลงทุน ผลประกอบการไตรมาส 3/64 โดยรวมตํ่ากว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย

กลยุทธ์การลงทุน ผลประกอบการไตรมาส 3/64 โดยรวมตํ่ากว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย

ใน 3Q64 กำไรรวมของบริษัทจดทะเบียนไทยอยู่ที่ 2.092 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY แต่ลดลง 25% QoQ ซึ่งทิศทางเป็นไปตามที่เราคาดไว้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะทำให้กำไรเพิ่มขึ้น YoY

ในขณะที่การใช้มาตรการ lockdown เพื่อคุม COVID-19 จะฉุดให้ผลประกอบการแย่ลง QoQ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากหุ้นใน universe ของ KGI ผลประกอบการรวมใน 3Q64 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 9% ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทั่วไปมองหุ้นหลายกลุ่มบวกมากเกินไปใน 3Q64 โดยมีเพียง 32% ของหุ้นใน universe ของ KGI เท่านั้นที่ผลประกอบการออกมาดีเกินคาด ในขณะที่ 28% ออกมาตามคาด และอีก 40% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้


กำไรของกลุ่มธนาคาร และโรงพยาบาลดีเกินคาดมากที่สุดใน 3Q64 แต่หุ้นหลายตัวในกลุ่มขนส่ง และพลังงานออกมาน่าผิดหวัง

หากพิจารณาในแง่ของ % ที่กำไรสูงเกินคาด กลุ่มธนาคาร และโรงพยาบาลจะแข็งแกร่งที่สุดใน 3Q64 โดยกลุ่มโรงพยาบาลได้อานิสงส์อย่างมากจากวิกฤติ COVID-19 รอบนี้ แต่เรามองว่าผลประกอบการของกลุ่มผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และจะกลับมาอยู่ระดับปกติในปี 2565 เรามองบวกกับกลุ่มธนาคารมากกว่า เพราะคาดว่าจะยังคงได้อานิสงส์จากแนวโน้ม GDP ที่จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากในปี 2565 ปรกอบกับแรงสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแล ในขณะเดียวกัน ผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ผลประกอบการของกลุ่มขนส่งออกมาน่าผิดหวัง ส่วนผลประกอบการที่ต่ำเกินคาดของหุ้นโรงกลั่นทำให้ผลประกอบการของกลุ่มพลังงงานออกมาน่าผิดหวัง อย่างไรก็ตาม GRM มีแนวโน้มเป็นบวกชัดเจนใน 4Q64 และทำให้เรายังคงแนะนำให้ซื้อหุ้นกลุ่มโรงกลั่น

 

 

ตลาดเพิ่งปรับเพิ่มประมาณการ EPS ปี 2564 และ 2565 เข้ามาใกล้ประมาณการ EPS ของเรามากขึ้น


ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นมา มีการปรับเพิ่มประมาณการ consensus EPS ปี 2564 ขึ้นมาใกล้ประมาณการ EPS ปีนี้ของเรามากขึ้น หลังจากที่ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารออกมาดี ในขณะที่ราคาน้ำมันวิ่งขึ้นมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดเอาไว้ และหนุนให้กำไรของกลุ่มพลังงานเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในขณะนี้ ทั้ง ประมาณการ EPS ปีนี้ของทั้ง KGI และ consensus อยู่ที่ 88.0 และเรามองว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังอาจจะมีการปรับเพิ่มประมาณการขึ้นได้อีกเล็กน้อย สำหรับในปี 2565 มีการปรับเพิ่มประมาณการ EPS พอสมควรเป็น 98.0 ซึ่งยังต่ำกว่าประมาณการ EPS ปี 2565 ของเราที่ 101.7 ทั้งนี้ ผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ จากผลของฐานที่ต่ำ และราคาน้ำมันที่วิ่งขึ้นมาแรง จะทำให้อัตราการเติบโตกลับไปอยู่ระดับปกติในปี 2565 โดยเราคาดว่าผลประกอบการของหุ้นใน universe ของ KGI จะโต 58.0% ในปี 2564 และ 15.5% ในปี 2565
 

 

 

 

 

 

 

 

ธีมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ ราคาหุ้นสะท้อนการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นของ Fed ไปแล้ว เรายังมองตลาดเป็นบวก โดยประเมินเป้าดัชนี SET สิ้นปีนี้ (อิงตาม PEG) ที่ 1,730

จนถึงขณะนี้ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคืบหน้าไปด้วยดี และยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เราเชื่อว่า GDP ปี 2565 น่าจะโตได้ตามประมาณการของเราที่ 4.7% (สูงกว่า consensus) ในขณะเดียวกัน เนื่องจาก Fed เริ่มลดขนาด QE ลงเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ แล้ว และ CME Fed Fund Futures เริ่มสะท้อนโอกาสที่ Fed จะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในเดือนมิถุนายน หรือ กรกฎาคม 2565 เราจึงคาดว่าตลาดการเงินทั่วโลกน่าจะรับรู้ประเด็นการปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวมากขึ้นของสหรัฐไปมากแล้ว เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มดัชนี SET ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และประเมินเป้าดัชนีสิ้นปีนี้ที่ 1,730 หุ้น 3 กลุ่มหลักที่เรา overweightได้แก่ ธนาคาร, commerce และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งทั้งสามกลุ่มจะได้อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นในระยะต่อไป ในขณะที่ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล เราชอบหุ้นธนาคารใหญ่อย่าง KBANK* และ BBL* แต่ชอบหุ้นเพียงบางตัวในกลุ่ม commerce ในเชิง recovery plays อย่างเช่น CPALL*, HMPRO* สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เรายังคงชอบผู้ประกอบการระดับกลาง ที่เน้น
โครงการแนวราบซึ่งน่าจะได้อานิสงส์จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV อย่างเช่น LH* และ ORI* สำหรับกลุ่มพลังงาน เราชอบหุ้นโรงกลั่น และเลือก SPRC*