AWC ทุ่ม 3.4 พันล.พัฒนาThe Integrated Wellness Destination ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

นางสาวภูมิฤทัย สิงหนาท เลขานุการ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)หรือ AWC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท  ครั้งที่ 7/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2564 ได้มีมติอนุมัติหลักการการเข้าทำสัญญาเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ระหว่าง บริษัท เอดับบลิวซี บาย ริเวอร์ฟรอนท์ จำกัด(“ผู้เช่า”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทกับ บริษัท หวั่งหลี จำกัด (“ผู้ให้เช่า”) ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท

ทั้งนี้เพื่อเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนเชียงใหม่ เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร จากผู้ให้เช่า โดยมีเนื้อที่เช่ารวมประมาณ 8-1-96.3 ไร่ เป็นระยะเวลาการเช่าและคำมั่นจะให้เช่าทั้งสิ้นประมาณ 64 ปีเศษ เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการตามแผนการลงทุนของบริษัทบนทรัพย์สินที่เช่าดังกล่าว โดยผู้ให้เช่าตกลงไม่คิดค่าเช่าสำหรับช่วงระยะเวลาพัฒนาทรัพย์สินที่เช่า ซึ่งนับตั้งแต่วันที่ผู้ให้เช่าส่งมอบการครอบครองพื้นที่เช่าจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2568 

ทั้งนี้ ผู้ให้เช่าตกลงส่งมอบการครอบครองทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้เช่าภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2564 พร้อมจดทะเบียนการเช่า 30 ปี (เริ่มตั้งแต่วันที่1 ม.ค.พ.ศ. 2569 ถึงวันที่31 ธ.ค. พ.ศ. 2598) พร้อมกับคำมั่นของ ผู้ให้เช่าว่าจะให้เช่าต่ออีก 30 ปี(เริ่มตั้งแต่วันที่1 ม.ค. พ.ศ. 2599 ถึงวันที่31 ธ.ค. พ.ศ. 2628) (ต่อไปจะเรียกรวมกันว่า “รายการ”)การเข้าทำรายการนี้คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน รวมประมาณ 3,436.0 ล้านบาท (ซึ่งประกอบไปด้วย ค่าเช่ารวม 1,269.2 ล้านบาท และเงินลงทุนในการพัฒนาโครงการประมาณ 2,166.8ล้านบาท 

ทั้งนี้ในวันที่ 22 พ.ย. 2564 บริษัท เอดับบลิวซีบาย ริเวอร์ฟรอนท์จำกัด ได้ลงนามในสัญญาเช่า
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กับ บริษัท หวั่งหลีจำกัด ตามมติคณะกรรมการดังกล่าวข้างต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินธุรกิจตามแผนการเพื่อพัฒนาโครงการคุณภาพที่มีมาตรฐานใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเชิงสุขภาพระดับโลก

สร้างปรากฏการณ์ใหม่ “The Integrated Wellness Destination” ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของคนรักและใส่ใจในสุขภาพ ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจำนวนมากจากทั่วโลก โดยมี“The Ritz-Carlton” เป็นผู้ร่วมพัฒนา โครงการเพื่อสร้างมาตรฐานของการให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกให้เป็นที่ประทับใจสำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูงและใส่ใจสุขภาพ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของรูปแบบพันธมิตรของ AWC ยังจะรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงรวมกันเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวของทุกภาคสวนต่อไป