อาร์เอส ส่ง “ไลฟ์เมต” เจาะทาสหมา-แมว ชิงเค้กตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง 17,600 ลบ.
“เฮียฮ้อ สุรชัย” แม่ทัพใหญ่อาร์เอส แปรความรักสัตว์ สู่ธุรกิจ ปั้นแบรนด์ “ไลฟ์เมต” จับกลุ่มเป้าหมายทาสหมาทาสแมวสายเปย์ ประเดิมอาหารสัตว์เลี้ยงเสิร์ฟลูกค้า เล็งขยายหมวดอาหารเปียก สแน็ค ปีแรกขอโกยอดขาย 320 ล้านบาท สานเป้าหมาย ท็อป 3 ในอนาคต
สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) จูงสุนัขตัวโปรด “Banker” ขึ้นเวที พร้อมเผยความชื่นชอบสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ต้องการเลี้ยงน้องหมาตั้งแต่อายุ 30 กว่าๆ แต่ไม่มีโอกาสได้เลี้ยงเพราะภารกิจการงานที่รัดตัว กระทั่งเข้าสู่วัย 50 ปี งานเริ่มอยู่ในจุดที่ดีเลยมีจังหวะปะเหมาะได้เลี้ยงสุนัข 3 ตัว และกลายเป็นตัวแปรที่ทำให้เข้าใจพฤติกรรม ความต้องการของคนรักสัตว์ที่ทุ่มเท “เงิน” เพื่อดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดี โดยเฉพาะการหาซื้อสินค้าทั้งอาหารและเครื่องใช้ต่างๆให้สุนัข แมวอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ วันหยุดส่วนตัวของ “เฮียฮ้อ” ผู้ไม่ชอบชอปปิง แต่เลือกใช้เวลากับร้านจำหน่าผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงหรือเพ็ทช็อป ทำให้พบว่าตลาดดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก ทั้งการซื้ออาหาร แชมพูฯ แพงกว่าของคน รวมถึงไปหาหมอแต่ละครั้งใช้จ่ายเฉลี่ยหลักหมื่นบาท ยิ่งกว่านั้น Pain point ใหญ่ของคนเสี้ยงสัตว์ต้องระวังเรื่องโรคภัย ภูมแพ้ น้องหมาแมวไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก สายตา ฯ ซึ่งจุดตั้งต้นต้องมาจากการกินอาหารที่ดีทั้งสิ้น
ปัจจัยดังกล่าว บวกกับขนาดตลาดใหญ่ รวมถึงทาสหมาทาสแมวพร้อมจ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงตัวโปรด จึงสร้างแบรนด์ “ไลฟ์เมต” ผลิตสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง เบื้องต้นเป็นอาหารแห้งสำหรับหมาแมวเข้าทำตลาดอย่างเป็นทางการ และวางแผนจะเสริมทัพด้วยอาหารเปียก สแน็คสำหรับสัตว์เลี้ยงต่อไป
“หมาแมวเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง แต่เป็นเหมือนคู่ชีวิต สมาชิกในครอบครัว และการที่เลี้ยงหมาด้วยตัวเอง ทำให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคว่าต้องการสินค้าที่ดี คือหัวใจสำคัญต่อการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ไลฟ์สตาร์ผลิตสินค้าเพื่อดูแลสุขภาพของคนมาตลอด 7 ปี จึงถึงเวลาผลิตตสินค้าดูแลสัตว์เเลี้ยงเอาใจ Dog lovers Cat lovers”
แนวโน้มตลาดสัตว์เลี้ยงยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะเทรนด์ในอนาคตผู้บริโภคอยู่เป็นโสดมากขึ้น แต่งงานช้า แต่งงานแล้วยังไม่มีลูกทันที สังคมผู้สูงอายุ ตลอดจนความหลากหลายทางเพศ(LGBT) ล้วนต้องการเติมเต็มความสุขในชีวิต และสัตว์เลี้ยงตอบโจทย์ดังกล่าวสะท้อนถึงขุมทองทางการตลาดที่มากยิ่งขึ้น
“สิ่งเหล่านี้คือเทรนด์และเป็นโอกาสทางการตลาดด้วย ขณะเดียวกันอาหารสัตว์ ยา เป็นสิ่งที่ชาดไม่ได้เพราะคือหนึ่งในปัจจัยสี่ของหมาแมว ทำให้ท่ามกลางวิกฤติโรคโควิด-19 ตลาดไม่ได้รับผลกระทบมากนัก”
พรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ฉายภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เติบโตเฉลี่ย 10% โดยปี 2563 มีมูลค่า 39,000 ล้าานบาท เติบโตจากปี 2562 มีมูลค่า 35,453 ล้านบาท หากแบ่งหมวดหมู่ ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงคิดเป็น 45% หรือมูลค่า 17,600 ล้านบาท โดยตลาดแมสมีสัดส่วน 60% สแตนดาร์ด 30% และพรีเมียม 10% ผู้เล่นในตลาดมีนับ “ร้อยแบรนด์” ทั้งไทยและแบรนด์นำเข้า
ตลาดใหญ่ แต่คนรักสัตว์สปอยล์หมาแมวหนักมาก โดยค่าใช้จ่ายสัตว์เลี้ยงต่อปีค่อนข้างสูง ทั้งทาสหมาทาสแมวใช้จ่ายเฉลี่ย 14,200 บาทต่อปี แบ่งเป็น แมวใช้จ่ายวิตามิน 1,200 บาท ขนม 1,200 บาท อาหารเปียก 1,800 บาท อาหารเม็ด 4,200 บาท เป็นต้น ส่วนหมา วัคซีน 1,000 บาท อาหารเม็ด 4,800 บาท อุปกรณ์ ของเล่น 2,400 บาท อาหารเปียก 3,000 บาท เป็นต้น
เมื่ออาร์เอส ปั้นแบรนด์ “ไลฟ์เมต” เข้าทำตลาด ต้องการเจาะเซ็กเมนต์สแตนดาร์ด หวังให้คนรักสัตว์ที่ซื้อสินค้าในตลาดแมส ขยับมาซื้อ “ไลฟ์เมต” ที่คุณภาพดีแต่ราคาจับต้องได้ ขณะเดียวกันจะแบ่งเค้กเซ็กเมนต์พรีเมี่ยมให้มาเปลี่ยนจากซื้อสินค้านำเข้ามาซื้อสินค้าของบริษัท
สำหรับช่องทางจำหน่ายสินค้าจะเน้นร้านเพ็ทช้อป คลินิก โรงพยาบาลสัตว์ทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ RS Mall, Shopee และ Lazada ส่วนห้างค้าปลีกสมัยใหม่กำลังพิจารณาการขยายช่องทางอยู่ อย่างไรก็ตาม การทำตลาดครั้งนี้เป้าหมายปีแรกต้องการยอดขาย 320 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งทางการตลาดราว 10% ในเซ็กเมนต์สแดนดาร์ด อนาคตต้องการติดท็อป 3