EGCO ประเด็นสำคัญที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์
EGCO ยังคงงบลงทุน (CAPEX) 5 ปีเอาไว้ที่ไม่น้อยกว่า 1.50 แสนล้านบาท (3 หมื่นล้านบาท/ปี) ซึ่ง 80%-90% จะเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจผลิตไฟฟ้า ในขณะที่อีก 10%-20% จะเป็นการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า
เราเชื่อว่าสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทที่ต่ำเพียง 1.07x จะทำให้บริษัทยังมีโอการกู้เพิ่มเพื่อขยายการลงทุนได้อีกมาก (กู้เพิ่มได้อีกถึง 2.20 แสนล้านบาทที่ debt covenant 3.0x)
โอกาสการลงทุนใน Apex
ผู้บริหารแจ้งว่าธุรกรรมการเข้าลงทุนใน Apex Clean Energy ในสหรัฐเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 โดยไม่ได้เปิดเผยต้นทุนการลงทุน ทั้งนี้ Apex ทำธุรกิจพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐ โดยโครงการเหล่านั้นบางส่วนจะถูกขายออกไปบางส่วนให้กับนักลงทุนรายอื่น ในขณะที่บางส่วน Apex จะบริหารเองขึ้นอยู่กับอัตราผลตอบแทนของโครงการ ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่าอัตราผลตอบแทนของโครงการที่ขายออกไปจะอยู่ในระดับสองหลักปลาย ๆ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของโครงการที่บริหารเองจะอยู่ที่ระดับสองหลักต้น ๆ เราเชื่อว่าโครงการนี้จะส่งผลดีกับ EGCO ในแง่ของ i) การเข้าไปลงทุนในโรงไฟฟ้าของสหรัฐผ่านการเข้าซื้อกิจการจาก Apex และ ii) การใช้ Apex เป็นทั้งผู้พัฒนาโครงการ และ platform สำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้ เรายังไม่ได้รวมมูลค่าของ Apex เข้าไว้ในการประเมินมูลค่าหุ้น EGCO
โครงการ Yunlin และ NT1 น่าจะเริ่ม COD ได้ตามกำหนดในปี 2565
มีสองปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นกำไรจากธุรกิจหลักของ EGCO ในปี 2565F ได้แก่ กำหนด COD ของโครงการ Yunlin และ NT2 โดย Yunlin เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งประเทศไต้หวัน กำลังการผลิต 640MW (160MWe) ซึ่งได้จ่ายไฟจากกังหันลมสองตัว (8MW/กังหัน) เข้าระบบสายส่งแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2564 และภายในปีนี้คาดว่าจะจ่ายไฟเพิ่มเข้าระบบได้อีกรวมเป็น 13 ตัว คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 104MW หรือ 26MWe โดยในปัจจุบัน โครงการโดยรวมมีความคืบหน้าไปแล้ว 71% และคาดว่าจะ COD ได้ทั้งหมดภายใน 4Q65 ในขณะเดียวกัน โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NT1 กำลังการผลิตรวม 644MW (161MWe) มีความคืบหน้าไปแล้ว 94% และคาดว่าจะเริ่ม COD ได้ภายใน 2Q65
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และประเมินราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 314 บาท ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ EGCO ใน 4Q64F จะลดลง QoQ เนื่องจากเป็นช่วง low season ของโรงไฟฟ้า IPP แต่คาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจาก XPCL จะเพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์ La Niña ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะโตต่อเนื่องในปี 2565F จากกำลังการผลิตใหม่ 160MWe ของโครงการ Yunlin และ 161 MWe ของโครงการ NT1 ซึ่งมีกำหนด COD ใน 2Q65 รวมถึงดีล M&A ใหม่ของ APEX ด้วย
Risks
ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า, ความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่, ภาวะภัยแล้ง