KTB เร่งปรับองค์กร อัพสกีลพนักงาน สู้โลก ‘ดิจิทัล’
กรุงไทยเชื่อ ระบบแบงก์ แบกหนี้ 2 ล้านล้านบาทอยู่รอดได้ มั่นใจระบบแบงก์แกร่ง จากการไม่หย่อนวินัยในการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ ชี้ดิสรัปชั่นเป็นทั้งวิกฤติและโอกาสแบงก์
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) และประธานสมาคมธนาคารกรุงไทย กล่าวในงานสัมมนา Thailand 2022 Unlock Value ก้าวสู่เส้นทางใหม่ ไร้ขีดจำกัด จัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ในหัวข้อ “Unlock Value ก้าวสู่เส้นทางใหม่ ไร้ขีดจำกัด” ว่า ปัจจุบันมีหนี้ที่อยู่ในระบบการเงิน ที่อยู่ภายใต้มาตรการทางการเงินราว 2 ล้านล้านบาท ที่เหมือนเป็นหน้าผาเอ็นพีแอล ที่เกิดจากผลกระทบจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ที่ถือเป็นจุดเปราะบางสำคัญของระบบการเงิน
แต่ภายใต้เครื่องมือที่ยืดหยุ่นของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ยาวถึง ปี 2566 ดังนั้นแปลว่าระหว่างนี้จนถึง 2 ปีข้างหน้า เราจะมีเครื่องนี้เข้าไปช่วยประคองลูกหนี้ แบบผลักดันให้ลูกหนี้สามารถฟื้นตัวด้วย แต่ทั้งหมดที่มี 2 ล้านล้านบาท ในระบบการเงิน ต้องทยอย soft landing เพื่อไม่ให้เกิดการกระตุกตัว หรือการช็อกของระบบและกระทบต่อเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่า การดูแลลูกหนี้ 2 ล้านล้านบาท ต้องรอดได้ เพราะวันนี้ระบบสถาบันการเงิน มีเสถียรภาพ โดยสถาบันการเงินได้เรียนรู้จากวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 และไม่เคยหย่อนด้านวินัยในการดูแลเสถียรภาพของระบบ ทั้งในส่วนสถาบันการเงิน ธปท.
ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เผชิญอยู่ แต่ก็ต้องระมัดระวัง และ Soft landing
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า ในยุคที่เกิดดิจิทัลดิสรัปชั่น เป็นทั้งวิกฤติและโอกาสของสถาบันการเงิน ที่มาพร้อมกันผู้ให้บริการทางการเงินที่เข้ามาแข่งขันอย่างหลากหลายมากขึ้น
ดังนั้นเงินในระบบการเงินจะหมุนเร็วขึ้น เหล่านี้คือความท้าทายใหม่ของสถาบันการเงินที่ต้องปรับ ทั้งกระบวนการทำงาน องค์กร และยกระดับพนักงานไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น เพื่อเปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาส