ซี.พี.รีเทล ยุบรวม “แม็คโคร” ดันทุนธุรกิจเลิก พุ่ง 3,000%
ทุนจดทะเบียนธุรกิจเลิกกิจการ ต.ค.พุ่ง 3,502% เหตุซีพีรีเทลยุบกิจการ เฉียด 2 แสนล้านรวมดีลแม็คโคร-โลตัส ขณะที่จำนวนธุรกิจเลิกกิจการเพิ่ม 31% ชี้สอดคล้องแนวโน้ม 5 ปีที่ผ่านมา ขณะอังค์ถัดชี้ไทยแห่M&ATธุรกิจนอกบ้านปี63เพิ่มเท่าตัว
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือนต.ค.2564 ธุรกิจจัดตั้งใหม่ จำนวน 5,555 ราย ลดลง 265 ราย หรือ 5% เทียบกับเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่เพิ่มขึ้น 159 ราย หรือ 3% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 21,965.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% เทียบกับก.ย.แต่ลดลง 50% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน
ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ จำนวน 1,976 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 207,653.57 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุธุรกิจเลิกกิจการในเดือนต.ค.ที่มีทุนจดทะเบียนสูง เพราะในเดือนต.ค. บจ. ซี.พี.รีเทล โฮลดิ้ง ซึ่งทุนจดทะเบียน 199,479.57 ล้านบาทได้จดทะเบียนเลิกกิจการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากการที่บริษัทฯ โดยมติของผู้ถือหุ้นได้โอนกิจการและทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เช่น ธุรกิจค้าปลีก Lotus’s Stores ในประเทศไทยและมาเลเซีย รวมทั้งได้มีมติจดทะเบียนเลิกกิจการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ธุรกิจเลิกกิจการ เดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 473 ราย หรือ 31% เมื่อเทียบกับเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แต่ลดลง 82 ราย หรือ 4% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่ทุนจดทะเบียนกิจการที่เลิกประกอบการในเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 201,888.98 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3,502%เทียบกับก.ย.ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 199,860 ล้านบาท หรือ2,564% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน
สำหรับซีพีเป็น หนึ่งในธุรกิจไทยที่ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมาโดยรายงานการลงทุนโลก 2564 : การฟื้นตัวของการลงทุนอย่างยั่งยืน [ The World Investment Report 2021: INVESTING IN SUSTAINABLE RECOVERY] ของ การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรืออังค์ถัด สาระสำคัญโดยสรุป ระบุว่า การลงทุนนอกประเทศ หรือ Outflows OFDI ของประเทศอาเซียนได้แก่ อินโดนีเซียและ ไทยเพิ่มขึ้น โดยไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นท่าตัวมี มูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางเม็ดเงินลงทุนของหลายประเทศในอาเซียนมีมูลค่าลดลง
โดยการลงทุนหลักๆของไทยได้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ EGAT ไปลงทุนที่เวียดนาม มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ ก่อสร้างโรงไฟฟ้า Loc Ninh มูลค่า 384 ล้านดอลลาร์ และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด(มหาชน) ได้ลงทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์
ส่วนการM&Aปี ที่ผ่านมามีธนาคารกรุงเทพ ได้ Bank Permata ของอินโดนีเซีย ด้วยมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจจำกัด (มหาชน)ได้ Frasers Commercial Trust (Singapore) ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ และตบท้ายด้วย กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี ก็ซื้อเทสโก้ ในมาเลเซีย ด้วยมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนต.ค. 2564 ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ต.ค. 64) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 809,410 ราย มูลค่าทุน 19.26 ล้านล้านบาท แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 480,124 ราย คิดเป็น 59.32% ขณะที่ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,530 ราย คิดเป็น 2.04% รวมมูลค่าทุน 16.02 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.16%