ASIAN กำไร 9 เดือน พุ่งสวนโควิด 779 ล้านบาท เตรียมนำ เอเชี่ยน อะไลอันซ์ฯ (AAI) เข้าตลาดหุ้นปลายปีหน้า
วิกฤติเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก กลุ่มบริษัทเอเชี่ยนฯ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีผลประกอบการดีขึ้นอย่างโดดเด่น ปี 64 เพียง 9 เดือน กำไรสุทธิ 779 ล้านบาท ตั้งเป้าไตรมาส 4/65 นำ เอเชี่ยน อะไลอันซ์ฯ (AAI) เข้าตลาดหุ้น
กลุ่มบริษัทเอเชี่ยนฯ (ASIAN) เป็นกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจผลิตอาหารและจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วโลกมานานกว่า 40 ปี เติบโตและขยายธุรกิจเรื่อยมา จากธุรกิจครอบครัว สู่ปัจจุบันที่มีธุรกิจใน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์แช่เยือกแข็ง กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ทูน่าและกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำ และเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ของตนเองที่กำลังไปได้สวยอย่างแบรนด์ “Monchou”
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในยุคโควิด-19 น่าจะเป็นการที่ผู้บริหารตัดสินใจใช้ยาแรงในปี 2561 กับธุรกิจกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีอัตรากำไรน้อยและมีความผันผวนมาก โดยตัดสินใจปิดโรงงานขนาดเล็ก 1 แห่ง ทำให้โรงงานอาหารแช่เยือกแข็งอีก 2 แห่ง มีการใช้กำลังการผลิตเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น และยุติการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ หรือ Commodity ในกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้ง โดยเฉพาะที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา หันมามุ่งทำตลาดสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ประเภทสินค้าพร้อมปรุงแช่เยือกแข็ง (Frozen Ready-To-Cook) โดย ASIAN เชื่อว่า ธุรกิจผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ทั้งในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง เป็นกลุ่มที่บริษัทฯ มีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
การตัดสินใจดังกล่าว ทำให้ในช่วงปี 2562 บริษัทมียอดขายและกำไรลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจากการปรับปรุงโรงงาน และปรับลดพนักงานให้เป็นไปตามแผน อีกทั้งการขยายตลาดผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงก็ทำได้แบบค่อยเป็นค่อยไป แต่กลับเป็นผลดียิ่งในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง หรืออาหารพร้อมปรุงแช่เยือกแข็งเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในยุคที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ต้องทำงานที่บ้าน และร้านอาหารต่างๆ ในหลายๆ ประเทศถูกบังคับให้ปิดกิจการในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ โดยในปี 2561-2563 กลุ่มบริษัทมีรายได้อยู่ที่ราว 9,800 ล้านบาท 8,300 ล้านบาท และ 8,800 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิราว 362 ล้านบาท 133 ล้านบาท และ 818 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนผลประกอบการล่าสุดสำหรับงวด 9 เดือน ปี 2564 มีรายได้จากการขายรวม 7,105 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 779 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปี 2564 นี้บริษัทประกาศจะนำกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและทูน่า “AAI” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ราวๆ ปลายปีหน้า โดยมีแผนจะยื่นขอต่อ กลต. ราวๆ เดือนเมษายน นับเป็นก้าวสำคัญของการเติบโตของ ASIAN นอกจาก ทำให้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทได้สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง และทำให้ได้เงินทุนเข้ามาสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในช่วงน้ำขึ้น แล้วยังนับเป็นการแสดงออกว่า บริษัทมีความมั่นใจว่า ธุรกิจในกลุ่มอาหารแช่เยือกแข็งกลับมามีความแข็งแกร่งพอที่ดึงดูดนักลงทุนได้ด้วย