ผ่าธุรกิจ TRV โต ! รับยานยนต์-เครื่องไฟฟ้าฟื้น

ผ่าธุรกิจ TRV โต ! รับยานยนต์-เครื่องไฟฟ้าฟื้น

ส่องธุรกิจ “ที.อาร์.วี.รับเบอร์ โปรดักส์” หนึ่งในผู้ประกอบการ “ยางขึ้นรูป” ดาวเด่นรับยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์-เครื่องไฟฟ้าฟื้นตัว “ธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ” เจ้าของตัวจริง ลั่นแผนลงทุนพร้อมโลดแล่น หลังเงินไอพีโอขยายกำลังผลิตเพิ่ม !

"ธุรกิจยางขึ้นรูป” เป็นธุรกิจที่มีความสำคัญในการใช้งาน มีคุณสมบัติเฉพาะตัว ทดแทนกันยากเพราะมีความละเอียด โดยเชื่อตลาดยังมี “โอกาสเติบโต” ได้อีกมาก ! นี่อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุให้ราคา หุ้น ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ หรือ TRV ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก (2 ธ.ค.2564) เปิดเทรดที่ 4.72 บาท เพิ่มขึ้น 105% สูงกว่าราคา IPO ที่ 2.30 บาทต่อหุ้น 

ธุรกิจของ TRV มี “จุดเริ่มต้น” จากธุรกิจครอบครัว และด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปีที่บริษัทมุ่งพัฒนาธุรกิจทั้งด้านการบริหารจัดการ การพัฒนาบุคลากร กระบวนการผลิต คุณภาพของสินค้า การส่งมอบให้ทันเวลา ส่งผลให้บริษัทได้รับความไว้วางใจผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปชิ้นส่วนประกอบของรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลัก 

ผ่าธุรกิจ TRV โต ! รับยานยนต์-เครื่องไฟฟ้าฟื้น ปัจจุบัน TRV แบ่งออกเป็น “ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในยานยนต์” คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 52.45% อาทิ ท่อยางกันกระแทก ยางร้อยสายไฟในรถยนต์ ปะเก็นยาง ยางโอริง ลูกยาง ซีลยาง ยางแป้นเบรก ยางกันลื่น เป็นต้น “ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในเครื่องใช้ไฟฟ้า” คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 46.53% อาทิ ชิ้นส่วนยางในหม้อหุงข้าว ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ คอมเพรสเซอร์ ตู้เย็น เครื่องกรองอากาศ และ “ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปอื่นๆ” คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 0.85% อาทิ ชิ้นส่วนยางในเครื่องจักรการเกษตร ท่อประปา เป็นต้น

“ธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ หรือ TRV เล่าสตอรี่การเติบโตให้ “กรุงเทพธุรกิจ BizWeek” ว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นครั้งนี้...! เพื่อต้องการ “ปลดล็อก” การเติบโต สะท้อนผ่านเงินที่ได้จากการระดมทุนประมาณ 125.50 ล้านบาท เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องจักรจำนวน 85 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิต

โดยเป็นการทยอยซื้อเครื่องจักรทั้งหมด 15 เครื่อง และตามแผนจะซื้อครบทั้งหมดภายในปี 2568 ซึ่งจะสนับสนุนให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 94 ล้านชิ้น จากกำลังการผลิตสิ้นไตรมาส 3 ปี 2564 จำนวน 98.78 ล้านชิ้นต่อปี (หากคิดจำนวนเต็มปี) คาดกำลังการผลิตจะเพิ่มเป็นประมาณ 192.78 ล้านชิ้นต่อปีในปี 2568 รวมทั้งเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน จำนวน 10 ล้านบาท ภายในปี 2566 เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 22.83 ล้านบาท ภายในปี 2566 

สอดคล้องกับแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโตกว่า 10% จากปีนี้ ที่คาดว่าผลประกอบการสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่เติบโตมากกว่าปี 2563 ที่มีรายได้ 159.66 ล้านบาท เนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 คาดจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังเดินหน้าขยายตลาดยานยนต์ทั้งหมดมากขึ้นเพื่อสร้างการเติบโต

“ธุรกิจยางขึ้นรูปเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญในการใช้งาน มีคุณสมบัติเฉพาะตัว ทดแทนกันยาก มีความละเอียด โดยเชื่อวางตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งบริษัทพร้อมมองหาโอกาสในการขยายฐานลูกค้า ซึ่งคาดจะมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต” 

โดยบริษัทมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งบริษัทให้ความสำคัญในทุกกระบวนการผลิต และส่งมอบสินค้าได้ตรงตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการทำงานของบริษัท อีกทั้งสามารถเพิ่มหรือขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตและขยายตัวทางธุรกิจของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง 

ผ่าธุรกิจ TRV โต ! รับยานยนต์-เครื่องไฟฟ้าฟื้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยอมรับว่าแม้ว่าตลอดปีที่ผ่านมาบริษัทอาจได้รับผลกระทบบ้างจากการชะลอตัวการผลิตรถยนต์ในประเทศจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จากช่วงที่ผ่านมาบริษัทกระจายพอร์ตเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการยังรักษาความสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี 

ขณะที่แนวโน้มของอุตสาหกรรมรถยนต์ก็เห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวได้ชัดเจนอีกครั้งแล้ว โดยเฉพาะปี 2565 น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญสนับสนุนภาพรวมรายได้และศักยภาพทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

“กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปนั้นนับเป็นส่วนสำคัญอย่างมากและมีความต้องการในตลาดสูง และเป็นสินค้าที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการผลิตอีกด้วย”

เขา บอกต่อว่า “ความแตกต่าง” ของผลิตภัณฑ์บริษัท นั่นคือ “ความโดดเด่น” ด้านคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานสากลทั้งญี่ปุ่นและยุโรป ทำให้ผลประกอบการบริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการทำกำไรทั้งกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดี ส่วนประเด็นการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มองว่าสินค้าของ TRV ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะสินค้าของบริษัทที่เป็นชิ้นส่วนยางขึ้นรูปน่าจะได้รับประโยชน์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นส่วนประกอบในรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน 

สำหรับผลประกอบการของ TRV ช่วง 3 ปีย้อนหลัง (2561-2563) พบว่า มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23.56 ล้านบาท 25.27 ล้านบาท และ 21.20 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 146.40 ล้านบาท 167.98 ล้านบาท และ 159.41 ล้านบาท ตามลำดับ 

ท้ายสุด “ธีรวุฒิ” บอกไว้ว่า ปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายรายโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นเป็นหนึ่งฐานลูกค้าหลักของบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปนั้นนับเป็นส่วนสำคัญอย่างมากและมีความต้องการในตลาดสูง